เมาแล้วขับ! อัยการส่งฟ้องหมอรพ.ตำรวจ ขับ 'PORSCHE ชน Honda' ตาย2เจ็บสาหัส 1

          วันนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ เป็นจำเลยต่อศาลอาญาธนบุรี ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดและขับรถที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมในเวลาต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291,300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

          ศาลประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.153/2565 กำหนดนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. หลังเสร็จสิ้นกระบวนการฟ้องแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 200,000 บาท

          สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.05 น.ของวันที่ 29 ส.ค.2564 พ.ต.ท.ประพันธ์ กิมประพันธ์ สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต ใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า ถนนราชพฤกษ์ขาออก มุ่งหน้าตลิ่งชัน แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

          ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน จากการตรวจสอบช่องทางเดินรถฝั่งขวาสุด พบรถเก๋ง ยี่ห้อ  PORSCHE รุ่น Cayenne สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ฆ 4078 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ เนื่องจากชนท้ายรถคู่กรณีเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อ Honda รุ่น city สีดำ ทะเบียน 1 กฒ 3472  กรุงเทพมหานคร จนกระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร ส่งผลให้รถคู่กรณีฟาดซ้ำเข้ากับราวเหล็กกั้นขอบ ทางด้านขวาสุดจนพังยับทั้งคัน

          มีผู้เสียชีวิตที่นั่งมากับรถเก๋ง Honda ในที่เกิดเหตุทันที จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.พรยมล แซ่ลิ่ม อายุ 29 ปี และ นายชาคริต สิริอิสสระนันท์ อายุ 75 ปี ส่วนผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ อายุ 44 ปี กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างออกจากซากรถนำส่งไป รพ.ศิริราช ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน

          จากการสอบสวน ร.ต.ท.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ ผู้ขับขี่รถ PORSCHE ให้การทั้งน้ำตา ว่า ก่อนเกิดเหตุไปสังสรรค์กับเพื่อนมาเพียงเล็กน้อย ไม่มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด กำลังขับรถกลับบ้าน กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาฝนตก และจังหวะขับลงสะพานพอดี ทำให้หยุดรถไม่อยู่ พุ่งชนรถเก๋งคู่กรณีอย่างจัง หลังเกิดเหตุตนได้รีบแจ้งเหตุและลงมาช่วยเหลือคู่กรณี พยายามทำ PCR กู้สัญญาณชีพให้ นายชาคริต แล้วแต่ยื้อไว้ไม่ไหว ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นยืนรอมอบตัวกับพนักงานสอบสวนรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย    

            หลังเกิดเหตุ เมื่อ10.18น. JS100 สัมภาษณ์ ร.ต.ท.เกรียงไกร เปลี่ยนเดช รอง สว.จร.สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่า รถเก๋งฮอนด้า สีดำ น่าจะถูกชนท้าย แล้วรถหมุนก่อนถูกชนซ้ำอีกครั้ง บนรถมาด้วยกัน 3 คน คนขับเป็นผู้หญิงอายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 คน และชายอีก 1 คน ทางด้านคนขับรถยนต์ปอร์เช่ อายุประมาณ 20-30 ปี อาการปลอดภัยแต่ยังอยู่ในอาการตกใจ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้การว่า ตนเองเป็นแพทย์ แต่ยังไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน รอสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

          แต่ต่อมาในเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ประพันธ์ กล่าวว่า นำตัวผู้ขับขี่รถ PORSCHE มาตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบปริมาณ 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ทำให้สูญเสียสติสัมปชัญญะแต่อย่างใด เบื้องต้นจะสอบสวนพยานและติดตามบริษัทประกันภัยของรถทั้ง 2 คัน เข้ามาสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายกับผู้ขับขี่รถ PORSCHE ต่อไป แต่สุดท้ายในวันนี้ อัยการก็ยื่นฟ้องในข้อหา 'เมาแล้วขับ'

         ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตของหลานสาว นายชาคริต สิริอิสสระนันท์ อายุ 75 ปี โค้ชนักกีฬาวิ่งมาราธอน  ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน ครอบครัวยังติดใจเรื่องการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุ เนื่องจากมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ถึง 2ครั้ง โดยครั้งแรกวัดได้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ต่อมาสารวัตรสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ได้นำตัวคู่กรณีมาตรวจวัดแอลกอฮอล์อีกครั้ง  ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคนคือ นางสาวพรยมล แซ่ลิ่ม อายุ 29 ปี ก็เป็นนักกีฬาวิ่งมาราธอนเช่นเดียวกัน ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย ที่เป็นคนขับรถเก๋ง คือนางสาวผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ อายุ 44 ปี ลูกสาวของนายชาคริต  ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

         จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า คืนก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ท. นพ. ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ.1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ  ได้พาเพื่อนอีก 3 คน ไปดูถ่ายทอดฟุตบอลที่ที่พักในซอยเอกชัย 42 และได้ดื่มเบียร์ 1 กระป๋อง เมื่อประมาณเที่ยงคืน แล้วเช้ารุ่งขึ้นเวลาประมาณ 05.10 น. ได้ออกจากห้องพัก เพื่อพาเพื่อนกลับไปส่ง โดยเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

#เมาแล้วขับ 

อ่านข่าวย้อนหลัง: เมาแล้วขับกลับเช้ามืด 'ปอร์เช่' ป้ายแดง ชนกับเก๋งฮอนด้า ตาย 2 สาหัส 1 ใต้ BTS บางหว้า ถ.ราชพฤกษ์ https://www.js100.com/en/site/post_share/view/107813