สิงคโปร์ย้ำ มาตรการสาธารณสุข-ฉีดวัคซีนช่วยลดตายจากโควิด-19 ได้ถึง 8,000 รายเมื่อปีที่แล้ว

17 กุมภาพันธ์ 2565, 17:20น.


          กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลต่อการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ศึกษาโดยกระทรวงการคลังของสิงคโปร์ บ่งชี้ว่า มาตรการสาธารณสุขเช่น การล็อกดาวน์และการปิดชายแดน และการรณรงค์ให้ประชาชนส่วนใหญ่ในสิงคโปร์รับวัคซีนให้ครบโดส ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศหนึ่งที่มีอัตราการกระจายวัคซีนสูงที่สุดในโลก ร้อยละ 87.8 ของประชากร 5.4 ล้านคนรับวัคซีนครบโดส ช่วยให้สิงคโปร์มีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำ คือ เพียง 785 ราย ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสเดลตาระบาดอย่างหนัก



          อีกทั้งช่วยลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ราว 8,778 ราย ช่วยให้คนไข้อีก 33,000 คนไม่ทรุดหนักกว่าเดิม ขณะที่คนไข้ 112,000 คนไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่มีอาการป่วยหรือ ป่วยไม่รุนแรง ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2564 อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของสิงคโปร์อยู่ที่ 15.7 รายต่อประชากร 100,000 ราย นับเป็นอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก



          นอกจากนั้น ผลจากความสำเร็จจากมาตรการสาธารณสุข และโครงการวัคซีนส่งผลให้สิงคโปร์ยังทำให้รัฐบาลสามารถเปิดเศรษฐกิจของประเทศเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งช่วยให้สิงคโปร์สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโอไมครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักในปัจจุบัน โดยไม่ต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น เช่น การล็อกดาวน์เพิ่มเติม



          การศึกษาวิจัยเรื่องนี้สอดคล้องกับการศึกษาของนักวิจัยอีกชุดหนึ่งของสิงคโปร์ ซึ่งศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน นักวิจัยพบว่า คนที่ยังไม่รับวัคซีน เสี่ยงติดเชื้อไวรัสมากกว่าคนที่รับวัคซีนแล้ว คือ คนที่วัคซีนครบโดสแล้ว ป้องกันการติดไวรัสในอัตราร้อยละ 56.4 นอกจากนั้น กลุ่มผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไปที่มีการบันทึกไว้ในข้อมูลสาธารณสุขสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคมถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บ่งชี้ว่า คนที่รับวัคซีนครบโดสแล้ว มีอัตราการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล การป่วยหนักและการเสียชีวิตต่ำกว่ากลุ่มที่ยังไม่รับวัคซีน



          ในปัจจุบัน สิงคโปร์มีผู้ป่วยสะสม 514,880 คน เสียชีวิต 926 ราย



#สิงคโปร์



#โครงการวัคซีน

ข่าวทั้งหมด

X