ฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า การที่รัสเซียให้การยอมรับสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ถือเป็นการโจมตีโดยไม่ต้องใช้อาวุธ
หลังจากที่สภาดูมาของรัสเซียลงมติเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผ่านร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งถือเป็นการเติมเชื้อไฟเนื่องจากดินแดนทั้งสองมีปัญหาแบ่งแยกดินแดนระหว่างยูเครนและกลุ่มโปรรัสเซีย และโดเนตสก์และลูฮันสก์แยกตัวออกมาตั้งสาธารณรัฐเอกราช ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ แต่สาธารณรัฐทั้งสองยอมรับว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธัรฐรัสเซีย
ด้านดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า การกระทำเช่นนี้ถือว่ารัสเซียถอนตัวออกจากข้อตกลงมินสก์ ซึ่งรัสเซียจะต้องยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ข้อตกลงมินสก์ ทำขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติความขัดแย้งของรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งหากประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน รับรองกฎหมายให้สถานะการเป็นรัฐอิสระของดินแดนทั้งสองอย่างเป็นทางการจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดทวีคูณขึ้นไปอีก
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ยังเป็นที่จับตามองของทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียจะรุกรานยูเครนหลังจากที่ระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 คน ประจำการอยู่บริเวณชายแดน แม้รัสเซียจะยืนยันว่าไม่ต้องการสู้รบ
วานนี้ (15 ก.พ.) รัสเซียยังได้ประกาศถอนกำลังทหารส่วนหนึ่งออกจากพื้นที่บริเวณชายแดนติดกับยูเครน เย้ยตะวันตกที่ประโคมข่าวว่ารัสเซียกำลังเตรียมบุกยูเครนในอนาคตอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตามสหรัฐและ NATO กล่าวว่ายังไม่เห็นหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์คลี่คลายจนสามารถวางใจว่าจะไม่เกิดสงครามได้
#รัสเซีย
#ยูเครน