ฮ่องกง ระบบสธ.ตึงตัว! เจอผู้ป่วยพุ่ง 13 เท่า รักษาตัวที่รพ.ถึง 90%

          หลังจากโรคโควิด-19 ระบาดใหญ่ระลอกที่ 5 ฮ่องกง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 13 เท่า ในช่วงเวลาเพียง 2 อาทิตย์ จาก 100 คน เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ.65 เพิ่มขึ้นเป็น 1,536 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ทั้งมีกลุ่มเสี่ยงที่รอการตรวจซ้ำเพื่อความชัดเจนอีก 2,000 คน กระทบระบบสาธารณสุขของฮ่องกงอย่างหนักและเกินกำลังความสามารถของฮ่องกงในการควบคุมการแพร่ระบาด          

          องค์การโรงพยาบาลของฮ่องกง (Hospital Authority) ระบุว่า ในปัจจุบัน อัตราการครองเตียงของคนไข้โควิด-19 สูงถึงร้อยละ 90 ขอให้คนวัยหนุ่มสาวและคนที่มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยกักตนเองที่บ้าน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่ให้ผู้ป่วยทุกคนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือศูนย์กักกันของรัฐในย่านเพนนีส์เบย์ เกาะลันเตาของฮ่องกง ขณะเดียวกัน ศูนย์กักกันต่างๆมีผู้เข้ารับการกักตัวพักอาศัยเกือบเต็มเช่นเดียวกัน

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ส่วนใหญ่ของฮ่องกง เตือนว่า ตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันของฮ่องกงจะสูงถึง 28,000 คนต่อวัน ภายในปลายเดือนมี.ค.65นี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังไม่รับวัคซีน เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

           นางแคร์รี หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เปิดเผยว่า รัฐบาลฮ่องกง ประสานงานกับรัฐบาลจีนให้เข้ามาช่วยเหลือฮ่องกงในด้านการตรวจโรคโควิด-19 การรักษาทางการแพทย์และการกักกันผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง สิ่งที่ฮ่องกงต้องการให้รัฐบาลจีนช่วยเหลือเป็นพิเศษ คือ การจัดส่งชุดตรวจโรค อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล(PPE)สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ของฮ่องกง

             นางหลั่ม ย้ำว่า ฮ่องกงยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายลดโรคให้เหลือศูนย์ เช่นเดียวกับประเทศจีน รวมถึงการล็อกดาวน์พื้นที่ศูนย์กลางการแพร่ระบาดทันทีที่พบการระบาดแบบคลัสเตอร์ในท้องถิ่น ต่างจากหลายประเทศที่เริ่มใช้นโยบายควบคุมโรคแบบยืนหยุ่น เช่น การเปิดประเทศ ให้นักเดินทางที่รับวัคซีนครบโดสแล้วเข้าประเทศ พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนปรับตัวอยู่กับโรคโควิด-19

             นอกจากนี้ ฮ่องกง จะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.65 หลังเด็กวัย 4 ขวบคนหนึ่งเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เมื่อเร็วๆนี้

             ในปัจจุบัน ฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสม 22,980 คน เสียชีวิต 219 ราย

#ฮ่องกง

#ติดเชื้อพุ่ง