*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30
+++วันนี้ ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาบทเฉพาะกาล ที่มีเรื่องการเว้นวรรคทางการเมืองของแม่น้ำ 5 สาย ขณะที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ รายงานว่า ขณะนี้การยกร่างรัฐธรรมนูญใช้เวลาไปแล้ว 57 ครั้ง 400 กว่าชั่วโมง ซึ่งร่างแรกจะต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ภายในวันที่ 17 เม.ย.นี้ หลังจากนั้น 1 เดือนคือในเดือนพ.ค. สมาชิก สปช. คณะรัฐมนตรี(ครม.)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)สามารถขอแก้ไขเพิ่มเติม ถ้อยคำเนื้อหาได้ ซึ่งกมธ.ยกร่างฯ จะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อพิจารณาเป็นร่างสุดท้าย แล้วเสนอต่อที่ประชุม สปช.อีกครั้งภายในวันที่ 23 ก.ค.เพื่อให้ สปช.ลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 6 ส.ค.
+++ส่วนประเด็น การเลือก ส.ว. นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ ส.ว.เป็นกระจกส่อง ส.ส.อีกแล้ว เพราะในปี 49 ส.ว. 200 คน มี 47 คน ที่เป็นเครือญาติของ ส.ส.ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งแรกไม่มีปัญหา เพราะพรรคการเมืองตั้งตัวไม่ได้ แต่พอเขาตั้งตัวได้ ก็มีการแบ่งพื้นที่กันเรียบร้อย จึงต้องทำให้ ส.ว.เป็นพหุนิยมของพลเมืองที่หลากหลายอาชีพ เพื่อถ่วงดุลกับส.ส. ซึ่งสภาที่เป็นพหุนิยม ไม่ใช่ลากตั้ง คำว่าลากตั้งเป็นภาษาของสื่อบางฉบับที่ดูถูกการเลือกตั้ง ดังนั้นปัจจุบันส.ว.จึงต้องมาโดยระบบเลือกตั้งทางอ้อม และ ส.ว.จะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้งนั้น สำคัญน้อยกว่าบทบาทหน้าที่
+++ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ระบบเลือกตั้งเดิมทำให้พรรคการเมืองใหญ่ได้คะแนนมนิยมเกินกว่าที่ประชาชนให้จริง เราจึงสร้างสมดุลในความนิยาม โดยใช้ระบบสัดส่วนผสมกับเขต กำหนด ส.ส. 470 ที่นั่งการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม ทำให้เกิดรัฐบาลผสมซึ่งเอื้อต่อการปรองดอง ทำให้เกิดการพูดคุยของพรรคการเมือง ไม่คิดว่าข้าใหญ่คนเดียว เพราะที่ผ่านมาเมื่อพรรคใหญ่เป็นรัฐบาลแล้วเกิดการไม่พอใจ พรรคเล็กก็ออกมาบนท้องถนน หรือถ้าพรรคเล็กเป็นรัฐบาลพรรคใหญ่ก็ออกมาบนท้องถนนเช่นกัน ซึ่งเป็นอย่างนี้มา9 ปีแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องทำให้เกิดความสมดุลของพรรคการเมือง
++++ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงข้อเสนอ ที่ให้แม่ทั้ง 5 สาย เว้นวรรคการเมือง 2 ปี ว่า ให้ไปดูรัฐธรรมนูญชั่วคราว ว่าเขียนไว้ว่าอย่างไร รัฐธรรมนูญชั่วคราว ระบุเฉพาะกมธ.ยกร่างฯ ตนก็ยังยึดตามนั้นเสนอมาอย่างไรก็เสนอไป แต่ความเห็นของตนในฐานะเป็นหัวหน้า คสช.และ ครม.จะยึดตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ส่วนข้อเสนอนี้จะเป็นการกำจัดความหวาดระแวง เรื่องการสืบทอดอำนาจหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "จะมาหวาดระแวงอะไรกับผมถ้าหวาดระแวงผม ผมไม่คืนอำนาจให้ก็จบแล้ว"
+++นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. กล่าวถึงกรอบการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของสปช.ว่า ทางกมธ.ยกร่างฯจะส่งร่างแรกฉบับเต็ม ให้กับทางสปช.ในวันที่ 17 เม.ย. และมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณา10 วัน ยืนยันว่า จะไม่มีทางปล่อยให้รัฐธรรมนูญที่ไม่มีคุณค่าประชาธิปไตยออกมา แต่เราจะได้ประชาธิปไตยที่ดีงามพอเหมาะกับคนไทยอย่างแน่นอน ส่วนในวันที่ 11 มี.ค.นี้สปช.จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ที่สโมสรกองทัพบก(ทบ.) ถ.วิภาวดีรังสิต แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีรายละเอียดค่อนข้างมากทำให้อาจพิจารณาได้น้อย จึงมีแนวคิดว่าที่จะมีการจัดประชุมต้นน้ำเพิ่มเติมโดยเป็นการประชุมเฉพาะในส่วนของประธานคสช. ครม. ประธาน สปช. ประธาน สนช. ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งจะหารือในเชิงลึก
++++การต่ออายุ ปปช. นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวยอมรับว่า มีการคุยเรื่องการต่ออายุดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ป.ป.ช.จริง โดยแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการคุยกันในที่ประชุม ป.ป.ช.นานแล้ว ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรให้ไปสอบถามนายปานเทพ ในฐานะประธานป.ป.ช. และนายวิชา สำหรับเหตุผลที่ต้องต่ออายุเนื่องจากหากกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน หมดวาระไปจะเหลือกรรมการอยู่ 4 คน หากจะทำเรื่องคดี ก็ไม่มีความต่อเนื่อง จะเกิดการชะงัก หากมีคนมารับงานสืบเนื่องไป ก็ไม่น่าห่วง แต่หากหมดวาระไป 5 คน เหลืออยู่แค่ 4 คน จะทำงานไม่ได้ ปัญหาจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ไม่ห่วงกระแสวิจารณ์เรื่องการต่ออายุว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการทำเพื่อความจำเป็นให้นำงานมาทำต่อไม่ใช่เพื่อความสนุกสนาน มันจะมีอำนาจอะไร มีแค่การยื่นคำร้องถอดถอน และชี้มูลความผิดเท่านั้น
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงกระแสข่าวกรรมการ ป.ป.ช. 5 คน ขอต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่งว่า ค่อนข้างใหม่สำหรับตน แต่ไม่ใหม่โดยสิ้นเชิง เพราะเป็นสิ่งที่ผู้มีความรู้และเกี่ยวข้องคิดมานานแล้ว แต่คิดต่อไม่ถูกว่า คณะกรรมการป.ป.ช. 9 คนซึ่ง 5 ใน 9 คน จะครบวาระในปี 58 โดยนายปานเทพจะครบวาระในเดือนพ.ค. เนื่องจากอายุครบ 70 ปี และอีก 4 คนคือ นายวิชา นายวิชัย นายภักดี และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปีในเดือนก.ย. ตามหลักเมื่อพ้นไปต้องสรรหาเข้ามาแทนแต่การสรรหาจะทำได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ผู้สรรหาขาดองค์ประกอบ ยอมรับเป็นปัญหาแต่ยังคิดไม่ออก
+++ความคืบหน้าการติดตามร่องรอยการเงินวัดพระธรรมกาย ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น กับพวกรวม 8 คน ยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ยูเนี่ยน คลองจั่น มีมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ได้นำพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เพื่อตรวจสอบมูลนิธิของพระครูปลัดวิจารณ์ ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อรับเช็คบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำนวน 119 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้แยกชุดพนักงานสอบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายศุภชัย ซึ่งเข้าไปอาศัยอยู่ในอาคารยูทาวเวอร์ ที่นายศุภชัยนำเงินที่ยักยอกจากสหกรณ์ไปก่อสร้างอาคาร ดังนั้นอาคารดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของสหกรณ์ การเข้าไปพักอาศัยโดยไม่จ่ายค่าเช่าทำให้สหกรณ์ขาดผลประโยชน์ ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอปรากฏว่ามีข่าวรั่วไหลจากชุดสอบสวน ทำให้ผู้บริหารสหกรณ์ยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลมีนบุรีเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ ว่านายศุภชัย ติดค้างค่าเช่าอาคารยูทาวเวอร์เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการให้ยุติคดีที่เชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการชะลอหมายเรียกพระธัมมชโย และพระลูกวัดเข้าให้ปากคำด้วย
+++พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ บอกว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำ ผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ ไปแล้วกว่า 100 ปากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ ไปแล้ว หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีของสหกรณ์ทั่วประเทศ และเตรียมสอบปากคำ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสและกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฏรับเช็คจากสหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยน คลองจั่น จำนวน 15 ฉบับ เป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท โดยจะให้ชี้แจงในประเด็นที่มีในการรับเช็คจากสหกรณ์ ที่มาที่ไปของเงินจำนวนนี้ รวมทั้งนำเงินไปใช้วัตถุประสงค์ใด โดยหากไม่มาตามหมายเรียกก็จะมีการออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้ง หากยังไม่มาพบอีกก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่เชื่อว่า "พระธัมมชโย" น่าจะเข้ามาให้ปากคำตามหมายเรียก โดยมีกำหนดตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
+++พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่าปปง.จะเข้าไปดูเฉพาะรายละเอียดเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ขึ้นอยู่กับเจตนาว่ารู้หรือไม่ว่าทรัพย์ที่ได้รับมานั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการฟอกเงิน ถ้าชี้แจงได้ไม่มีความผิดอาญา แต่ทรัพย์จะต้องถูกอายัด เช่นเดียวกับกรณีของนายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ผู้ซื้อรถยนต์ต่อจาก ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน
+++ส่วนมหกรรมขายทอดตลาด ตัดวงจรการฟอกเงิน นำเงินคืนสู่แผ่นดิน" ครั้งที่ 1 ภายใต้แนวความคิด "ของดี มีคุณค่า ราคาไม่แพง" ซึ่งเป็นการขายทรัพย์สินที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (อดีต ผบช.ก.) สำหรับทรัพย์สินที่ประมูลออกไปวันนี้รวม 220 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 15,700,000 บาท นอกจากนี้ยังมีภาพวาดของศิลปินชื่อดัง เช่น ภาพชื่อบ้านริมน้ำเมืองเนเธอร์แลนด์ เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าฝ้าย โดยศิลปินชาวฮอลแลนด์ ในปี ค.ศ.1906 มีอายุกว่า 109 ปี ตั้งราคาประเมินไว้ที่ 15 ล้านบาท ถือเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงสุดในการประมูลครั้งนี้ แต่ยังไม่มี ผู้ประมูลไปในวันนี้
+++ปิดท้ายชวนเที่ยวงาน วิถีข้าว วิถีไทย มหัศจรรย์ข้าวไทย ที่ริมคลองผดุงฯจัดยาว1 เดือน – 5 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธาน นายกฯได้กล่าวขอบคุณและได้ชิมข้าวพันธุ์ต่างๆ จากซุ้มที่นำมาจัดแสดงจากจังหวัดต่างๆ รวมทั้งได้แนะนำว่าให้พัฒนาในเรื่องของรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่า เพราะข้าวไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่รู้จักจากทั่วโลกอยู่แล้ว จากนั้นนายกฯได้ป้อนข้าวพันธุ์ลืมผัว ให้กับภริยาด้วย