นายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเริ่มผ่อนคลายคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศภายในเดือนนี้ โดยจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศเพื่อธุรกิจและการศึกษามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกำหนดเวลาและตัวเลขที่แน่ชัด แต่มาตรการที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเขากล่าวว่า จะพิจารณาโดยอ้างอิงความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโควิดโอไมครอน สถิติผู้ติดเชื้อทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนมาตรการควบคุมชายแดนของประเทศต่างๆ คาดว่าในสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะสามารถประกาศรายละเอียดต่างๆ ได้
คำพูดของนายกรัฐมนตรีมีขึ้นหลังจากที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มาตรการปิดประเทศว่าส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติไม่สามารถกลับมาศึกษาต่อได้ ทำให้บางคนย้ายไปเรียนที่อื่น ส่วนภาคธุรกิจที่มีปัญหาการขาดแคลนแรงงานเรื้อรัง ได้ขอให้มีการยกเลิกคำสั่งห้ามคนทำงานซึ่งเป็นชาวต่างชาติเข้าประเทศด้วย
ญี่ปุ่นจำกัดจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศเหลือ 3,500 คน ตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายน 2564 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดโอไมครอน และเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลเปิดเผยว่าจะอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายเดินทางเข้าประเทศ
นิคเคอิ รายงานว่าแนวทางการเปิดรับชาวต่างชาติเข้าประเทศ จะเป็นการเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นระยะ โดยบริษัทต้นสังกัดของชาวต่างชาติ กับสถาบันการศึกษาของนักศึกษาต่างชาติผู้นั้นจะต้องดูแลผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและการแยกกักตัว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ลดวันกักตัวจาก 7 วันเหลือ 3 วันหรือไม่
ส่วนการเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้นและการย้ายถิ่นฐานในระยะยาว รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของนักวิจัยและวิศวกร ตลอดจนคนงานด้านสาธารณประโยชน์เป็นลำดับแรก
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้เริ่มอนุญาตให้นักเรียน นักศึกษาต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวนหนึ่งเข้ามาในประเทศได้ และในการผ่อนคลายเพิ่มเติมจะให้ความสำคัญกับนักเรียน นักศึกษาที่ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้หากไม่มีการเรียนแบบตัวต่อตัวในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลเรื่องการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว และมีผลการรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ซึ่งรัฐบาลต้องการลดความซับซ้อนของเอกสาร และกระบวนการคัดกรอง
....
#ญี่ปุ่น
#ผ่อนคลายเข้าประเทศ