ความคืบหน้าเหตุน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลอีกครั้ง ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งนายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยระบบคุณภาพสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย บริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า พบคราบน้ำมันบางๆ ห่างฝั่ง 4 กม. ทีมงานเรือของบริษัทฯ และเรือประมงในพื้นที่ ใช้เทคนิคที่เรียกว่าการตีกวนให้คราบน้ำมันที่เป็นฟิล์มบางๆ ให้ผสมกับสาร Dispersant ให้เกิดการแตกกระจายตัวออกไป และสลายเร็วขึ้น คาดว่าจะกำจัดได้ภายในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว ไม่มีลักษณะเป็นคราบน้ำมันหนาแน่นที่พัดเข้าฝั่งเหมือนอย่างครั้งที่แล้วแน่นอน ส่วนสาเหตุการรั่วไหลนั้น เกิดจากขั้นตอนที่กู้ท่ออ่อนขึ้นมาบนฝั่ง เป็นแค่การเตรียมตัวแต่ปรากฏเกิดเหตุการณ์รั่วไหลขึ้นมาจากจุดเดิม จำนวน 5,000 ลิตร
พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ได้สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน โดยจัดเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินนำสารเคมี DASIC international SLICKGONE ไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และจัดกำลังพลจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) จำนวนผลัดละ 40 นาย เข้าประจำพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากเกิดกรณีคราบน้ำมันที่รั่วไหลมาถึงบริเวณชายหาดอีกครั้ง โดยมีการสำรวจบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บขยะร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัท SPRC โดยจะปฏิบัติการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โดยเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) กำลังพลของกองทัพเรือ และพนักงาน SPRC นำอุปกรณ์ที่เรียกว่า "โฟม บูม" (Foam Boom) มาเตรียมรอไว้บริเวณริมชายหาดบริเวณ แหลมรุ่งเรือง ต.ปากน้ำ อ.เมือง เพื่อนำออกไปยังบริเวณที่คาดว่าจะพบคราบน้ำมันที่รั่วและลอยอยู่ในทะเล โดยขณะนี้มีการล้อมน้ำมันไว้เป็นพื้นที่ประมาณ 0.36 ตารางกิโลเมตร ซึ่งโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่มีอะไรน่ากังวลและคาดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเร็วๆ นี้
....
ภาพจากกองทัพเรือ
#ระยอง
#กองทัพเรือ
#น้ำมันดิบรั่ว