นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี กล่าวต่อที่ประชุมวุฒิสภาของเยอรมนีว่า การประมาณการทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า การระบาดใหญ่ระลอกที่ 5 ของโรคโควิด-19 ของเยอรมนีมาถึงจุดพีคหรือระบาดหนักที่สุดแล้ว พบผู้ป่วยใหม่ 240,172 คนในวันนี้ คาดว่า หลังจากนั้น การระบาดจะค่อยๆลดลง มีผู้ป่วยรายวันลดลงโดยลำดับ หมายความว่า เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปอาจจะสามารถเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเร็วๆนี้
นายโชลซ์ คาดว่า การประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรีกับมุขมนตรีจาก 16 รัฐของเยอรมนีในวันพุธหน้า ที่ประชุมจะหารือเรื่องการอนุญาตให้ธุรกิจเอกชนกลับมาเปิดทำการตามปกติ และมาตรการที่จะดำเนินการในระยะต่อไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนนี้
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เยอรมนีได้ออกมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด เช่น รณรงค์ให้ร้านอาหารและสถานบันเทิงเช่น บาร์ อนุญาตให้เฉพาะคนที่รับวัคซีนครบสามเข็ม หรือวัคซีนบูสเตอร์แล้ว หรือคนที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ หรือคนที่หายป่วยแล้วเข้าไปใช้บริการ เพื่อลดการแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน เยอรมนีอนุญาตให้ประชาชนรวมกลุ่มไม่เกิน 10 คน หรือ สมาชิกจาก 2 ครอบครัวสามารถจะรวมกลุ่มกันได้ ในกรณีที่มีหนึ่งคนในกลุ่มนั้นยังไม่รับวัคซีน
ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นของทั้ง 16 รัฐของเยอรมนี มีอำนาจที่จะออกข้อกำหนดในเรื่องการบริหารงานของรัฐบาลท้องถิ่น เช่น เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยบนรถสาธารณะเช่น รถไฟ ไปจนถึงเรื่องการกำหนดให้นักเรียนเรียนหนังสือด้วยระบบทางไกลอยู่ที่บ้าน แต่หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโดยลำดับ รวมถึงการบังคับฉีดวัคซีน เช่น รัฐบาวาเรีย เป็นรัฐแห่งแรกของเยอรมนีที่ยกเลิกข้อกำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ไปรับวัคซีน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้
เยอรมนีผู้ป่วยสะสม 11.89 ล้านคน เสียชีวิต 120,196 ราย
#เยอรมนี
#เตรียมคลายมาตรการคุมโควิด