รัสเซียเผยยังมีช่องทางสำหรับการเจรจาทางการทูตเพื่อคลี่คลายปัญหาวิกฤติยูเครน

          นายวลาดิมีร์ ชิซฮอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหภาพยุโรป(อียู)เปิดเผยกับบีบีซีว่า รัสเซียยังเชื่อมั่นถึงการเจรจาทางการทูตยังเป็นหนทางที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติในเรื่องยูเครน ที่ผ่านมา รัสเซียไม่คิดจะรุกรานประเทศอื่นมาตั้งแต่แรก แต่เตือนว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องไม่กดดันรัสเซียด้วย

          นายชิซฮอฟ ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่ารัสเซียจะถอนกำลังทหารออกจากชายแดนติดต่อกับยูเครนเมื่อใด แต่สงสัยว่า ทำไม ไม่มี คนสังเกตว่า มีทหารยูเครนมากน้อยเพียงไรที่ตรึงกำลังประชิดชายแดนติดต่อกับรัสเซีย 

          นายชิซฮอฟ แสดงความเห็นเรื่องนี้ หลังมีการเจรจาทางการทูตหลายคณะเมื่อวันจันทร์และวันอังคาร รวมทั้งประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ซึ่งเยือนรัสเซียและยูเครน พร้อมพูดเป็นนัยว่า ข้อตกลงสันติภาพสี่ฝ่ายคือ รัสเซีย ยูเครน รัสเซียและฝรั่งเศส ลงนามในกรุงมินสก์ เบลารุส ในปี 2557 ซึ่งมุ่งจะยุติการสู้รบกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน อาจจะนำมาใช้เป็นหลักการพื้นฐานไปสู่การยุติปัญหาวิกฤติในปัจจุบัน เรียกชื่อใหม่ว่า ข้อตกลงสี่ฝ่ายของกลุ่ม นอร์มังดี ประกอบด้วยรัสเซีย ยูเครน เยอรมนีและฝรั่งเศส

          ด้านนายฟิลิปป์ เอเตียน เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสหรัฐฯเห็นพ้องว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจจะเป็นแนวทางไปสู่การคลี่คลายวิกฤติของยูเครนในปัจจุบัน ทวีตข้อความ เสนอแนะให้มีการใช้ข้อตกลงสันติภาพกรุงมินสก์ เป็นหลักการไปสู่การคลี่คลายปมขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับยูเครน 

          ที่ผ่านมา รัสเซียย้ำว่าไม่มีแผนการบุกยึดยูเครน แต่มีการระดมกำลังทหารกว่า 100,000 คนเข้ามาประชิดชายแดนติดต่อกับยูเครน ทำให้สหรัฐฯและชาติตะวันตกเช่น ฝรั่งเศสและอังกฤษ เตือนว่า รัสเซียอาจจะใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกยึดยูเครนได้ทุกเมื่อ

#รัสเซีย

#วิกฤติยูเครน