พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการนำกล้องวงจรปิดออกใบสั่งอัตโนมัติมาใช้ในการแก้ไขปัญหาจราจรว่า ล่าสุด ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนออกแบบกล้องเพื่อใช้งานตามแยกไฟแดงในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)และปริมณฑล รวม 130 แยก โดยเฟสแรกเร่งด่วนมีจำนวน 70 แยก และตามเส้นทึบคอสะพานอีก 30 จุด เช่น หน้าห้างพันทิพย์ประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี ที่พบว่ารถที่ออกจากห้างตัดกระแสทางตรงเบียดเส้นทึบขึ้นสะพาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถติด หรือในช่วงกลางคืนบริเวณถนนอังรีดูนังต์ ที่มักมีรถแท็กซี่จอดซ้อนคันหลายช่องทางเพื่อรอรับผู้โดยสาร เป็นสาเหตุทำให้รถทางตรงผ่านลำบาก กล้องจะทำการบันทึกทะเบียนรถเข้าระบบเซิร์ฟเวอร์กลาง ตลอด 24 ชั่วโมง และจัดส่งใบสั่งถึงบ้าน โดยผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งแก้กฏหมายเพื่อให้สามารถชำระเงินผ่านเคาท์เตอร์เซอร์วิสได้ทันทีหากไม่ประสงค์โต้แย้ง และหากไม่มาชำระค่าปรับจะถูกส่งเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อทำการอายัดทะเบียน ทั้งนี้เชื่อว่าโครงการกล้องวงจรปิดออกใบสั่งอัตโนมัติ จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาจราจรได้จริง และขณะนี้อยู่ระหว่างการรองบประมาณมาดำเนินการโดยเร็วที่สุด
โฆษกสตช. ยอมรับว่า พื้นที่อาคารย่านเตาปูน เคยมีการลักลอบเปิดให้เล่นเป็นบ่อนการพนันจริง ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ได้ทำการอายัดสถานที่ไว้ และตำรวจอยู่ระหว่างประสานขอใช้อาคาร ตั้งสถานีตำรวจชุมชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติแล้ว จะมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ เข้าไปประสานงานในชุมชน ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน รับแจ้งเหตุ และรักษาความปลอดภัย ภายในชุมชน นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจให้ชัดเจนขึ้น กรณีที่มีการจับบ่อนการพนัน อบายมุข การค้ามนุษย์ และยาเสพติด เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หน่วยงานใดต้องรับผิดชอบบ้าง เช่น ในกรณีที่พยานแวดล้อมประชาชนชี้ให้เห็นว่ามีการกระทำผิดจริง แต่ตำรวจไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ต้องหาได้ ตำรวจในพื้นที่จะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ
อภิสุข