กรณีคนร้ายชาย สูงประมาณ 180 เซนติเมตร สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ใส่ถุงมือสีขาว สวมกางเกงยีนส์ และสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ บุกเข้ามาในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหินกอง จังหวัดสระบุรี กลางวันแสกๆ ก่อนทำทีเหมือนล้วงอาวุธปืนที่เอวออกมาข่มขู่พนักงานธนาคาร และยื่นถุงให้คนที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์หยิบเงินใส่ถุงให้ แล้วพอได้เงินไปประมาณ 210,000 บาท วิ่งหนีจะออกจากแบงก์ แต่ถูก รปภ.ใช้เหล็กขาตั้งเจลแอลกอฮอล์ขัดประตูขวางไว้ ทำให้คนร้ายต้องออกแรง กระชากประตูแบงก์จนเหล็กที่ขัดไว้กับประตูเลื่อนหลุด ก่อนวิ่งหนี และขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางถนนสุวรรณศร – วิหารแดง ซึ่งการก่อเหตุคนร้ายใช้เวลาไปเพียง 2 นาทีเท่านั้น
จากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้ ขณะหนีไปกบดานอยู่ที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ห่างจากธนาคารที่ก่อเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ผู้ต้องหาคือ นายวีระชัย อรรถภาพ อายุ 33 ปี ชาว จ.สระบุรี เบื้องต้นให้การปฏิเสธ อ้างว่า ไม่ได้เป็นคนร้าย แต่ตำรวจไม่เชื่อ ยืนยันมีพยานหลักฐานผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ
นอกจากตำรวจจะได้ข้อมูลจากพยานแวดล้อมอย่างแม่ค้าลอตเตอรี่ที่อยู่หน้าธนาคาร ซึ่งเล่าถึงพฤติการณ์คนร้าย รวมถึงได้ข้อมูลจากนายอนุรักษ์ สีทา รปภ.ธนาคาร แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดไปตามเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายใช้หลบหนี โดยมั่นใจว่าคนร้ายไม่มีพรรคพวก บุกเดี่ยวมาคนเดียว และไม่มีอาวุธปืน แต่แสร้งขู่ว่ามีอาวุธ จนสามารถจับคนร้ายได้ จึงนำตัวไปค้นหาเงินของกลาง และหลักฐานต่างๆ ที่ใช้ในวันก่อเหตุ เช่น เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้ รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกันแถลงข่าวว่า คนร้ายให้การรับสารภาพแล้วหลังสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า ก่อเหตุเพียงคนเดียว ขณะที่ตำรวจค้นบ้านพักเจอเงินเพียง 7,580 บาท โดยนายวีระชัย อ้างว่าได้เงินมาเพียงเท่านี้จริงๆ ไม่ใช่ 2 แสนตามที่เป็นข่าว เบื้องต้นมีการประสานข้อมูลไปยังธนาคารเพื่อยืนยันกลับมาว่า คนร้ายได้เงินไปเท่าไรกันแน่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยอำพรางใบหน้า” มีโทษจำคุก 5-10 ปี ในวันพรุ่งนี้ จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังธนาคารที่เกิดเหตุเวลา 10.00 น.
#ชิงเงินธนาคาร
#ได้แค่7พัน