นายมุฮ์ยิดดิน ยัสซิน ประธานสภาฟื้นฟูแห่งชาติมาเลเซีย (NRC) องค์กรที่ปรึกษาของรัฐบาล เปิดเผยว่า NRC เสนอแนะให้รัฐบาลมาเลเซียเปิดชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ อย่างเต็มรูปแบบ อนุญาตให้ผู้โดยสารจากประเทศเพื่อนบ้านที่รับวัคซีนครบโดสแล้วเข้าไปยังมาเลเซียได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้โดยสารจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 สองครั้งคือ ก่อนเดินทางและในวันที่มาถึงสนามบินมาเลเซีย
ปัจจุบัน มาเลเซียอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนครบโดสแล้วเฉพาะจากสิงคโปร์เข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวภายใต้ข้อตกลง ทราเวล บับเบิล (travel bubble) หรือระเบียงท่องเที่ยวระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์
นายยัสซิน คาดว่า มาตรการเปิดชายแดนอย่างเต็มรูปแบบจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวและนักลงทุนสามารถจะเดินทางเข้ามายังมาเลเซียได้ตามปกติ ขณะที่สายการบินต้นทุนต่ำเช่น แอร์เอเชีย ซึ่งมีสำนักงานในมาเลเซียสามารถจะเปิดทำการบินตามปกติ
NRC เสนอแนะเรื่องนี้ หลังจากเพื่อนบ้านเช่น ประเทศไทยและสิงคโปร์ยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางที่รับวัคซีนครบโดสแล้ว นอกจากนี้ ประเทศไทยระบุเมื่อวานนี้ว่าอยู่ระหว่างพิจารณาโครงการทราเวล บับเบิล ระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียและประเทศจีน อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศทั้งสองที่รับวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน
ทั้งนี้ มาเลเซียปิดชายแดนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว พร้อมทั้งห้ามแรงงานชาวต่างชาติเข้าประเทศชั่วคราว เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ มาเลเซียพบผู้ป่วยใหม่ 13,944 คน สูงที่สุดในรอบ 4 เดือนเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโอไมครอน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2.9 ล้านคน เสียชีวิต 32,043 ราย
#มาเลเซีย
#เปิดชายแดน