ผู้นำฝรั่งเศสเผย 2-3 วันข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการคลี่คลายวิกฤติยูเครน

          ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เปิดเผยกับนักข่าวว่า ช่วง 2-3 วันข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการคลี่คลายวิกฤติของยูเครน ระบุว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องหันมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง ซึ่งฝรั่งเศสจะผลักดันเรื่องนี้ต่อไป นายมาครงพูดเรื่องนี้ หลังประชุม 5 ชั่วโมง พร้อมทั้งรับประทานอาหารค่ำกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในทำเนียบรัฐบาลกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ สำหรับเมนูอาหาร รวมถึงเนื้อกวางเรนเดียร์ โรยด้วยมะเขือเทศและแบล็กเบอร์รี่

          ด้านนายปูตินพูดเป็นนัยว่า มีความคืบหน้าในการประชุมสุดยอดกับนายมาครง นับเป็นการประชุมกับผู้นำชาติยุโรปเป็นครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียเริ่มระดมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดชายแดนติดต่อกับยูเครน โดยข้อเสนอ จากผู้นำฝรั่งเศสบางประเด็น อาจจะนำมากำหนดเป็นประเด็นเพื่อพูดคุยกันต่อไป แต่ยังเร็วเกินไป ที่จะเปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้

          ผู้นำทั้งสองจะพูดคุยกันทางโทรศัพท์อีกครั้ง หลังนายมาครงไปเยือนกรุงเคียฟ ของยูเครนในวันนี้ เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี 

          แม้รัสเซีย ย้ำว่า ยังไม่มีแผนรุกรานอาณาเขตของยูเครน แต่สหรัฐฯและชาติตะวันตก รวมทั้งฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษแสดงความกังวลเรื่องนี้ พร้อมทั้งเริ่มระดมกำลังทหาร เครื่องบินรบและเรือรบจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)เข้ามายังยุโรปตะวันออก เพื่อช่วยปกป้องยูเครน หากรัสเซียเดินหน้าบุกยึดยูเครนในอนาคต ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯประเมินว่า รัสเซียระดมกำลังทหารร้อยละ 70 ไว้พร้อมบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

          ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ เห็นด้วยกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ในกรณีบุกยึดยูเครน โดยนายจอห์นสันเขียนบทความในหนังสือพิมพ์เดอะไทม์ฉบับวันนี้ ระบุว่า อังกฤษอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการส่งเครื่องบินรบและเรือรบไปยังยุโรปตะวันออก

#ฝรั่งเศส

#รัสเซีย

#วิกฤติยูเครน