ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน คุก 1 ปี ผู้ช่วยเลขาฯป.ป.ช.จ่อปืนใส่แท็กซี่ รอลงอาญา 2 ปี

08 กุมภาพันธ์ 2565, 11:45น.


          ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพิเศษ หรือภูษิต นาคะพันธุ์ อายุ 56 ปี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นจำเลย กรณีเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 61 จำเลยได้พกพาอาวุธปืนโคลต์ รีวอลเวอร์ ขนาด.38 สเปเชียล ทะเบียน กท 2117198 พร้อมกระสุน แล้วหันปลายกระบอกปืนไปทางรถแท็กซี่รับจ้าง ที่มี นายพิพัฒน์ สีสะออน ผู้เสียหาย ขับตามมา พร้อมกับพูดว่า “ขับตามมาทำไม ให้ถอยรถออกไปวิ่งเส้นอื่น”



         ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน รวมจำคุก 1 ปี ปรับ 31,000 บาท ให้รอการลงโทษ 2 ปี พร้อมรายงานตัวการคุมประพฤติทุก 4 เดือน ใน 1 ปีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง, ฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองฯ มาตรา 371, ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ มาตรา 392 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ



         ก่อนหน้านี้ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งเเรกเมื่อวันที่ 19 ม.ค.65 แต่จำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจาก จำเลยติดธุระสำคัญ ต้องพามารดาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรัฐ จ.ชุมพร ศาลให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นวันนี้  โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาศาล



         ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนพร้อมประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปนั้นเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย อีกทั้งจำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวเพียงเพื่อข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายขับรถติดตามเท่านั้น โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้เสียหายให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต หรือร่างกาย พฤติการณ์จึงไม่ร้ายแรงนัก เมื่อจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และได้ชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการบรรเทาผลร้ายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ และผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไปแล้ว เห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี ซึ่งการรอการลงโทษที่ศาลชั้นต้นพิพากษาและคุมความประพฤติจำเลยนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย ส่วนการอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ทำให้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน



#คดีจ่อปืนใส่แท็กซี่

ข่าวทั้งหมด

X