ศุกร์นี้! อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย รายงาน 4 เรื่องหลัก ให้ศบค.พิจารณา ผ่อนคลายเพิ่มหรือไม่

          การเสนอมาตรการต่อศบค.ในวันศุกร์นี้(11 ก.พ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะมีการรายงาน 4 เรื่องหลัก คือ สถานการณ์ การฉีดวัคซีน การปรับพื้นที่ และคนเข้าประเทศ ซึ่งการปรับพื้นที่แนวโน้มจะเป็นอย่างไร ต้องรอดูข้อมูลและการหารือกับ ศบค. ส่วนจะเข้มขึ้นหรือผ่อนลงขึ้นกับศบค. ขณะนี้ทั่วโลกมีการผ่อนคลายกันหมด หากเราจะเข้มขึ้นอาจดูแปลกๆ กว่าคนอื่น แต่ถ้าจะผ่อนมาก ตัวเลขเราก็กำลังขึ้น ทำไมถึงผ่อนมาก ก็มีทุกประเด็น จะเอาประเด็นไหนมาอภิปราย พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ ต้องเดินหน้าต่อไป เรายังไปติดกับดักโควิดเหมือนปี 2020 ไม่ได้ต้องให้สังคมเข้าใจว่าโควิดเชื้อเปลี่ยนไป คนก็มีภูมิ เรารู้วิธีป้องกัน ตรงไหนจุดเสี่ยง ความรู้เรามีเยอะ หากทำแบบเดิมก็ไม่น่าจะเหมาะสม

          ส่วนการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับว่า ขณะนี้ มีความเห็นต่าง ทั้งคนชอบและไม่ชอบ บางคนก็มองว่า รายงานแต่ตัวเลขติดเชื้อไม่เห็นเกิดประโยชน์ ทำไมไม่รายงานคนป่วยหนักและเสียชีวิต เราก็มีรายงานทุกอย่าง ดังนั้น เราก็เอาแบบกลางๆ คงปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ถ้าคิดว่าจะเป็นโรคทั่วไป เป็นโรคประจำถิ่น ก็จะรายงานคนที่ไป รพ.และคนเสียชีวิต ไม่ได้รายงานคนติดเชื้อทุกคน

          สำหรับการฉีดเข็ม 3 ไม่ว่าฉีด 2 เข็มสูตรไหนมา หากกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์และโมเดอร์นา ประสิทธิภาพป้องกันติดเชื้อใกล้เคียงกันหมดอยู่ระดับ 60-70% แต่ป้องกันการเสียชีวิต 96-98 % มั่นใจว่านโยบายการฉีดเข็มกระตุ้นเราพิจารณาจากข้อมูลของเรา และปรับให้สอดคล้องสถานการณ์ ซึ่งการที่เราคุมได้ดีเพราะเราฉีดเข็มกระตุ้นได้เร็ว โดยเฉพาะกทม. ทำให้สถานการณ์การระบาดกทม.ไม่เยอะ

           ด้านความจำเป็นฉีดเข็ม 4 เมื่อเป็นโรคประจำถิ่น นพ.โอภาส กล่าวว่า โรคประจำถิ่น อย่างไข้หวัดใหญ่ฉีดวัคซีนทุกปี แต่โควิดยังเร็วเกินไป เพราะเราเพิ่งรู้จักมา 2 ปี แต่เชื่อว่าเข็มกระตุ้นมีประโยชน์ ส่วนเข็ม 4 เชื่อว่ายังจำเป็น แนะนำมาฉีดในพื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้า คนเข้าออกเยอะ มีความเสี่ยงสูง ยังไม่แนะนำทั่วไป

          อย่างไรก็ตาม การให้วัคซีนวงกว้างก็พิจารณาจากความปลอดภัย ประสิทธิภาพ สถานการณ์การระบาดในพื้นที่นั้นๆ และความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการ เช่น มีวัคซีนอะไรในการให้บริการ เป็นต้น ไม่ได้ดูเฉพาะ นักวิชาการบางคนเอาข้อมูลด้านเดียวมาอธิบายก็ทำให้คนสับสน แต่ไม่ดูว่าของจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเป็นข้อมูลจากการปฏิบัติจริง

          สำหรับวัคซีนไฟเซอร์เด็กอายุ 5-11 ปีนั้น ส่งเข้ามาให้เรา 3 แสนโดสต่อสัปดาห์ และทราบว่ากำลังจะเพิ่มให้เราเข้าใจว่า 1-2 สัปดาห์จะทยอยเข้ามาเป็นสัปดาห์ละ 5 แสนโดส จนครบ 10 ล้านโดส

 #ผ่อนคลายเพิ่ม

#โควิด19