ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนีจะเดินทางไปยังรัสเซียและยูเครนในช่วงเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อเพิ่มความพยายามทางการทูตในการออกจากความตึงเครียดในยูเครน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อรัสเซียเคลื่อนกำลังทหารนับแสนนายประชิดชายแดนยูเครน เรียกร้องให้นาโต้ไม่รับยูเครนเป็นสมาชิก ทั้งต้องการให้ชาติตะวันตกลดการเคลื่อนไหวทางทหารที่เป็นการคุกคามรัสเซีย แต่สหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียมีการวางแผนที่ซับซ้อนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี มาครง ของฝรั่งเศสมีกำหนดจะไปเยือนกรุงมอสโก รัสเซีย ในวันจันทร์ (7 ก.พ.) และกรุงเคียฟ ของยูเครน ในวันอังคาร (8 ก.พ.)
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ชอลซ์ ของเยอรมนีจะเดินทางไปกรุงเคียฟ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์และกรุงมอสโกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีการต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า การเดินทางเยือนระดับสูงจะช่วยลดความตึงเครียดในภูมิภาคลงได้ นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ (4 ก.พ.) นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายคูเลบาเกี่ยวกับการโน้มน้าวให้รัสเซียเข้าสู่การเจรจาทางการทูตเพื่อยุติสงคราม แม้ว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้จะจัดส่งกำลังทหารไปยังยูเครน และหลายประเทศที่มีแนวพรมแดนติดต่อกับรัสเซีย ขณะที่ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน แห่งตุรกี เดินทางไปกรุงเคียฟ เพื่อเสนอตัวเป็นตัวกลางในการเจรจาคลี่คลายความตึงเครียด
นายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียได้เคลื่อนกำลังพลเพิ่มเติมเข้าไปในประเทศเบลารุส ทางตอนเหนือของยูเครน ซึ่งนอกจากกำลังทหารประมาณ 30,000 นายแล้ว ยังมีระบบต่อต้านอากาศยานเอส-400 ขีปนาวุธจู่โจมพิสัยใกล้อิสคานเดอร์ และฝูงบินรบอเนกประสงค์ซู-35 แต่รัสเซียชี้แจงว่าเป็นการเคลื่อนกำลังพลเพื่อจัดการซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพรัสเซียกับเบลารุส ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
....
#ยูเครน
#รัสเซีย
#ฝรั่งเศส
#เยอรมนี