หลังมีชาวบ้านพบซากเนื้อสุกรชำแหละ 300 กิโลกรัม ถูกนำไปทิ้งที่บริเวณกองขยะริมถนนเลียบแม่น้ำมูล เขตเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เนื้อหมูที่ถูกนำไปทิ้งคาดว่าจะเป็นกลุ่มผู้ค้าที่กักตุนเนื้อหมูไว้จำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจห้องเย็นแล้วมีการเคลื่อนย้ายจนเกิดเน่าเสีย และนำมาทิ้งไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่เทศบาลจะฝังกลบเพื่อควบคุมโรคระบาด
นายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านช่างหม้อ ว่าพบซากหมูในถุงดำ ถูกมาทิ้งไว้ที่กองขยะริมถนนเลียบแม่น้ำมูล จากบ้านช่างหม้อไปบ้านหาดสวนสุข จากการตรวจสอบ พบถุงดำประมาณ 10 กว่าถุง บรรจุซากหมูชำแหละเป็นชิ้นส่วน มีทั้งบริเวณโคนขา ลำตัว ซี่โครง อวัยวะของหมูน้ำหนักรวมกันกว่า 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 60,000 บาท อยู่ในสภาพเน่าเหม็น มีแมลงวันตอมจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่จึงเก็บเศษชิ้นส่วน ส่งให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนำไปตรวจ ว่าเป็นหมูติดโรคแล้วถูกนำมาทิ้ง หรือเป็นหมูชำแหละที่หนีการระดมตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสกักตุนเนื้อหมู เมื่อนำไปเก็บซ่อนไว้ไม่ดี ทำให้เนื้อหมูทั้งหมดเน่าเสีย จึงได้นำมาทิ้งไว้ที่กองขยะในที่เปลี่ยว จนชาวบ้านมาพบ เบื้องต้น ได้นำรถไถมาขุดหลุมและฝังกลบซากหมูที่พบทั้งหมด
ด้านชาวบ้านผู้มาพบซากหมู เล่าว่า ซากดังกล่าวคาดว่าถูกนำมาทิ้งไม่นาน เพราะวันก่อนยังไม่เห็น แต่ตอนสายเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) จะมาเก็บถ่านที่เผาไว้ ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงจากกองซากหมูดังกล่าว
การพบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาหมูในประเทศเพื่อนบ้าน และหมูราคาแพง ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและปศุสัตว์ประจำด่านตรวจพรมแดนช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ต้องนำสุนัขดมกลิ่นรถขนส่งสินค้าทุกคัน ที่เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เนื้อหมูชำแหละ
จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าที่นำเข้าผ่านชายแดนแห่งนี้ ยังเป็นสินค้าด้านการเกษตรเช่น พืชผัก และมันสำปะหลัง ไม่พบว่าลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ ที่เป็นสินค้าต้องห้ามผ่านแดนปะปนเข้ามากับสินค้าในกลุ่มการเกษตร
ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ด่านชายแดนช่องเม็ก ให้ข้อมูลว่า การจะนำเข้าเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่นผ่านด่านนี้เป็นเรื่องยาก เนื่องจากทางประเทศเพื่อนบ้าน มีห้องเย็นเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็กเพียงแห่งเดียว ส่วนที่เหลือจะเป็นตู้แช่แข็งแบบใช้ตามร้านค้าทั่วไป ถ้าลักลอบนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งเหมือนชายแดนด้านอื่น ก็อาจจะไม่คุ้มกับการลงทุน และเชื่อว่าเนื้อหมูชำแหละ ที่เน่าเสียถูกนำไปทิ้งริมถนน น่าจะเป็นเนื้อหมูในประเทศ ที่เก็บไว้นานจนเน่าเสีย ไม่ใช่เนื้อหมูลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนการตรวจยึดซากหมูชำแหละที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศ เพื่อนบ้านจำนวน 24 ตันของเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เมื่อช่วงปลายเดือนม.ค. จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบผลตรวจว่าเป็นหมูที่ติดเชื้อโรคหรือไม่ แต่ของกลางทั้งหมดได้ฝังทำลายไปแล้ว
#ทิ้งซากหมู
#อุบลราชธานี