นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท จำนวนรวม 29 ล้านสิทธิ โดยสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 จำนวนไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน
กระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้เร็วขึ้น เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 (กลุ่มเดิม) มีจำนวน 27.98 ล้านสิทธิ กดยืนยันสิทธิในแอปเป๋าตังค์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.00 น. จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาจะถูกตัดสิทธิ โดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
เมื่อยืนยันสิทธิแล้ว สามารถใช้สิทธิได้ทันที จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565
2 ) ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ เปิดรับเพิ่มอีกมากกว่า 1 ล้านสิทธิ เพื่อให้ครบ 29 ล้านสิทธิ โดยกลุ่มใหม่นี้สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 และสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2565 ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
ขณะนี้กระทรวงการคลังยังมีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ที่ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 (ยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566) ที่ใช้ได้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยประชาชนที่ใช้โครงการช้อปดีมีคืนก็สามารถใช้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้ด้วย
...
#คนละครึ่งเฟส4
#ช้อปดีมีคืน
#ทำเนียบรัฐบาล
#กระทรวงการคลัง