สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อโอไมครอน BA.2 เพิ่มขึ้น แนะรับวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพิ่มการป้องกัน

29 มกราคม 2565, 15:00น.


          สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) เปิดเผยว่า เชื้อโควิดโอโมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 มีการแพร่ระบาดได้สูงกว่าสายพันธุ์ BA.1 อย่างชัดเจน ดร.ซูซาน ฮอปกินส์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของสำนักงานฯ เปิดเผยว่าขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 ในทุกภูมิภาคของอังกฤษ แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในเวลานี้ยังไม่สามารถประเมินความรุนแรงของอาการ และไม่พบความแตกต่างเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์ย่อยทั้ง 2 สายพันธุ์



          การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของ BA.1 สหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับสูงมาตั้งแต่เดือนธันวาคม (2564) และทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดเดลตาลดลง อย่างไรก็ตาม การรักษาในโรงพยาบาลอยู่ในระดับคงที่และมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และบางส่วนมีภูมิคุ้มกันจากการที่เพิ่งหายป่วยจากโควิด



          ในรายงานของสำนักงานฯ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายนถึง 19 มกราคม ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยหนักจากโควิด-19 ส่วนใหญ่คือผู้ติดเชื้อโควิดเดลตา แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิดโอไมครอนมากกว่าเดลตาแล้วก็ตาม ซึ่งทางสำนักงานสรุปว่า ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าการระบาดระลอกปัจจุบันของการติดเชื้อโควิดโอไมครอนไม่น่าจะทำให้เกิดอาการร้ายแรงขึ้นในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วหรือมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในระดับสูง



          นอกจากนี้ยังพบว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ในช่วงเวลา 6 เดือนหลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะสามารถป้องกันการเสียชีวิตจากโควิดโอไมครอนได้ถึงร้อยละ 95 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป



          ดร.แมรี แรมเซย์ หัวหน้าฝ่ายการฉีดวัคซีน ของสถาบันฯ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่า วัคซีนช่วยปกป้องเราทุกคนจากผลกระทบของโควิด-19 และวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มการป้องกันในระดับสูง ทั้งการเกิดอาการป่วยที่ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต



...



#สหราชอาณาจักร



#โควิดโอไมครอน



#วัคซีนบูสเตอร์

ข่าวทั้งหมด

X