*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++การแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนผู้คัดค้านการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาคประชาชนส่งรายชื่อตัวแทนมาครบ 10 คนแล้ว ส่วนกรรมการฝ่ายรัฐจะมี 10 คนเช่นกัน   หลังจากที่ได้รายชื่อกรรมการครบแล้ว จะนัดประชุมทันที เพื่อหารือข้อกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ.2514  และพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 เมื่อพิจารณาเสร็จเรียบร้อย จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป

+++ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึง กรณี ป.ป.ช.จะลงมติคดีถอดถอนอดีต 250 ส.ส.กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ  เพื่อส่งให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดำเนินการต่อไปว่า ที่ประชุมยังไม่มีการลงมติเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไม่สามารถสรุปสำนวนเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ได้ทัน เพราะคณะทำงานที่รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ต้องเตรียมตัวไปชี้แจงข้อซักถามคดีถอดถอนอดีต 38 ส.ว.ต่อที่ประชุม สนช.ในวันที่ 5 มี.ค. จึงขอเลื่อนการลงมติคดี 250 อดีต ส.ส.เป็น วันที่ 12 มี.ค.

++++++ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ปี 2553 ป.ป.ช.ได้รับการประสานมาแล้วว่า ในการรับทราบข้อกล่าวหาของบุคคลทั้งสองจะส่งผู้แทนมารับหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแทน เพื่อนำไปแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบในวันที่ 10 มี.ค. หลังจากนั้นผู้ถูกกล่าวหาจะต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ส่วนกรณีการไต่สวน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. ในการสลายการชุมนุม ยังอยู่ในกระบวนการไต่สวนต่อ เพราะ ป.ป.ช.ได้แยกส่วนระหว่างผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อดำเนินการไต่สวนครบถ้วนแล้ว จะวินิจฉัยอีกครั้ง

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้มีการเร่งรัดการการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2558 ตั้งแต่ไตรมาสแรก ซึ่งขณะนี้งบประมาณได้ลงไปถึงทุกพื้นที่ แต่ที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ เนื่องจากติดขัดปัญหาขาดผู้ประกอบการ หรือผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะเข้ามารับงาน เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก ที่กระจายไปทั่วประเทศ ดังนั้น จะต้องหาแนวทาง เช่น บูรณาการหลายโครงการเข้าด้วยกัน และได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปติดตามการขับเคลื่อนงบประมาณให้เกิดความรวดเร็ว  ไม่ได้เป็นการลดขั้นตอน แต่ต้องเร่งขั้นตอนให้มีความรวดเร็วมากขึ้น และสามารถสอบตรวจสอบได้ ยืนยันไม่ใช่เพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริต ภาคที่ได้งบประมาณมากที่สุด คือพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตามลำดับ โดยพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงฐานเสียงการเมือง

+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ  กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปรารภในที่ประชุมตอนหนึ่งถึงเรื่องของการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ยังมอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าไปตรวจสอบการใช้จ่ายขององค์การมหาชนทุกองค์กร ไม่ใช่การจ้องจับผิด แต่ให้ตรวจสอบเป็นบรรทัดฐานให้เข้าหลักเกณฑ์การใช้งบประมาณว่าต้องเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น น่าเชื่อถือ และโปร่งใส โดยนายกฯเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานช่วยกันตรวจสอบดูแลหน่วยงานของตัวเอง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของแค่รัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญเท่านั้น ดังนั้นต้องกำชับกำลังพลและข้าราชการในหน่วยงานขึ้นตรงด้วย เพราะข้าราชการต้องเป็นต้นแบบของการป้องกันการทุจริตและปลูกจิตสำนึก นายกฯพูดเลยไปถึงการดูงานและการไปต่างประเทศว่ากิจกรรมใดที่มีความจำเป็นน้อยก็ให้ลดลงให้เหมาะสม แต่ถ้าจำเป็นขอให้ลองดูว่าจะเชิญผู้บรรยายเข้ามาในประเทศได้หรือไม่ และแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของระดับผู้บริหารที่จะไปประชุม เช่น ระดับอธิบดี ถ้าเดินทางในประเทศขอให้นั่งเครื่องบินชั้นประหยัด ส่วนไปต่างประเทศนั่งเครื่องบินนานๆ ก็ต้องเห็นใจอธิบดี

+++ผลงานของทุกกระทรวง ก็จะเริ่มสู่ยุคใหม่ของการประชาสัมพันธ์ นายกฯ สั่งการให้ขับเคลื่อนให้ได้ จะมีทั้งเอกสาร การแถลง เว็บไซต์ ทุกกระทรวงจะออกมาว่ามีอะไรประชาชนจะต้องเข้าไปเรียนรู้ วันนี้กระทรวงคมนาคมได้มีแอพพลิเคชั่นเว็บไซต์ให้ร้องทุกข์ เช่นเกี่ยวกับรถแท็กซี่ และจากนี้ทุกกระทรวงต้องมีแอพพลิเคชั่นให้ได้

+++นอกจากนี้ สั่งให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) จัดทำแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือให้ความรู้ประชาชนในระดับรากหญ้า โดยเฉพาะสามารถตรวจสอบราคาพืชผลทางการเกษตร ราคาอาหาร ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ได้ในแอพพลิเคชั่นนั้นได้ทันที ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประชาชนรับรู้ราคาสินค้าแล้ว ยังช่วยตรวจสอบผู้ประกอบการบางรายที่ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า โดยไม่จำเป็น และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ก่อนจะส่งข้อร้องเรียนมาที่หน่วยงานรับผิดชอบไปดำเนินการได้

+++ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ปิดแดนลบ ผลจากตัวเลขยอดการส่งออกผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ลดลง ทั้งฟอร์ด, โตโยต้ามอเตอร์, ฮอนด้า, ไครสเลอร์ เฟียต และนิสสัน ทั้งหมดมีรายงานออกมาที่ยอดขายซบเซาลง ดาวโจนส์ ลดลง 85.26 จุด ปิดที่ 18,203.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.61 จุด ปิดที่ 2,107.78 จุด ด้าน แนสแด็ก ลดลง 28.2 จุด เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4979.90 จุด

+++ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 50.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความไม่สงบในลิเบีย และปริมาณคลังสำรองเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ที่มากขึ้นเรื่อยๆ  ด้านเบรนท์ลอนดอน ส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.02 ดอลลาร์

+++ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐฯ  ลดลง 3.80 ดอลลาร์  ปิดที่ 1204.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

+++สภาพอากาศรายจังหวัดมีหมอกควัน ที่เป็นผลพวงจากการเผาป่า เช่นที่จ.น่าน  เริ่มปกคลุมทั่วเมือง โดยประชาชนสามารถมองเห็นหมอกควันได้อย่างชัดเจนระยะ 1 กม. ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองน่าน จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่เทศบาลเมืองน่าน วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ที่ 145 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่าสูงเกินมาตรฐาน 120 ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และยังพบว่ามีการเผาป่าตามอำเภอรอบนอกอย่างต่อเนื่อง

+++ด้านนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงระยะนี้จังหวัดเชียงใหม่ต้องเผชิญกับวิกฤตหมอกควันปกคลุมไปทั้งเมือง ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐานและกระทบต่อสุขภาพ แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นในจังหวัดลำปาง และหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน เร่งประสานศูนย์ฝนหลวงภาคเหนือเพื่อดำเนินการทำฝนเทียมโดยเร่งด่วน

+++สถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการ ดับไฟป่าสะสมรวม 234 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 1,699 ไร่ ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า ในช่วง 3-4 วัน มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารักษาตัววันละ 1,800-2,000 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งได้มีการแจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเสี่ยงประจำโรงพยาบาลชุมชนและสาธารณสุขอำเภอแล้วจำนวน 100,000 ชิ้น