นางแคร์รี หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เปิดเผยว่า ฮ่องกงจะปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้โดยสารที่มาจากต่างแดนเหลือเพียง 14 วันจากเดิม 21 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ หลังคณะผู้บริหารบริษัทการเงินและทูตต่างชาติเรียกร้องมาหลายเดือนแล้ว ขอให้ทางการฮ่องกงลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้โดยสารจากต่างแดน เตือนว่า มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น เช่น การกักตัว 21 วัน อาจจะทำให้นักธุรกิจต่างชาติย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่นๆ จะกระทบต่อความสามารถการแข่งขันของฮ่องกงในอนาคต
นางหลั่มปฏิเสธว่า การปรับลดระยะเวลากักตัวของฮ่องกงไม่ใช่เป็นผลมาจากการถูกกดดันจากองค์กรการค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มีที่มาจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ คือ ไวรัสโอไมครอนมีระยะเวลาการฟักตัวค่อนข้างสั้น เพิ่มเติมว่า แม้รัฐบาลฮ่องกงจะปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้โดยสารจากต่างแดน แต่ภาคธุรกิจเอกชนในฮ่องกงอาจจะยังไม่พอใจ ยังคงต้องการให้มีการปรับลดระยะเวลากักตัวมากกว่านี้
ภายใต้ระเบียบใหม่ ชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติที่มีที่พักอาศัยถาวรในฮ่องกงจาก 160 ประเทศจะกักตัว 14 วันในโรงแรมที่รัฐกำหนดเป็นสถานที่กักตัว จากนั้น รัฐบาลจะอนุญาตให้พวกเขากลับไปกักตัวที่บ้านอีก 7 วันเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพ ทั้งนี้นางหลั่มไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า กฎระเบียบนี้ใช้กับผู้โดยสารจากประเทศใดบ้าง ระบุว่ารัฐบาลจะแถลงรายละเอียดในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในฮ่องกง หรือ ยูโรแชม (European Chamber of Commerce : EuroCham)ระบุในรายงานภายในองค์กรฉบับหนึ่งว่า การกักตัวผู้โดยสารจากต่างแดนหลายสัปดาห์กระทบต่อความมั่นใจของภาคธุรกิจเอกชน และอาจจะทำให้บริษัทต่างชาติย้ายฐานการลงทุนและพนักงานออกจากฮ่องกงไปยังสิงคโปร์และกรุงโซล เกาหลีใต้
ส่วนสถานการณ์การระบาดในวันนี้ ฮ่องกงพบผู้ป่วยใหม่ 164 คน นับเป็นสถิติผู้ป่วยใหม่รายวันที่สูงที่สุดนับแต่โรคโควิด-19 ระบาดในฮ่องกงเมื่อปี 2563 ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 13,626 คน เสียชีวิต 213 ราย
#ฮ่องกง
#ลดระยะเวลากักตัว