การควบคุมน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล (SPM) ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งจำกัด (มหาชน) กองทัพเรือ พร้อมทั้งผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวเรื่องการขจัดคราบน้ำมัน ก่อนที่คราบน้ำมันจะพัดไปถึงชายฝั่ง พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงขั้นตอนและการทำงานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งบริษัทดังกล่าวทันทีที่ทราบเรื่องจนถึงสถานการณ์ล่าสุด ผลการตรวจคราบน้ำมัน เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.65) เวลา 10.00 น. คราบน้ำมันที่รั่วห่างจากฝั่ง 16 กม. ทิศทางเคลื่อนที่เข้าหาฝั่ง กองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจาก น้ำมันกองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) ทำหน้าที่กำหนดนโยบายประสานงานเพื่อสนับสนุนสิ่งต่างๆ ขณะที่ ทัพเรือภาคที่ 1 ก็ตั้งศูนย์ดำเนินการด้วย มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้ควบคุมการปฎิบัติงานทั้งหมด
-น้ำมันกลุ่มก้อนใหญ่ ใช้ทุ่นล้อมกักน้ำมัน ใช้เครื่องดูดมาเก็บที่ถัง ส่งกรมอุตสาหกรรมทำลาย
-คราบน้ำมันไม่ใช่กลุ่มใหญ่ แต่เป็นอันตราย ใช้ทุ่นล้อมเปลี่ยนทิศทางให้ไปสู่ทะเลเปิด และดูดไปทำลายตามกระบวนการ
-คราบน้ำมันที่จะหลุดถึงชายฝั่ง เมื่อถึงชายฝั่ง ประสาน จ.ระยอง เตรียมการล้อมทุ่น ไม่ให้คราบน้ำมันขึ้นสู่ชายหาด หากขึ้นหาดแล้ว ถ้าเป็นหาดที่มีหินให้ฉีดคราบน้ำมันให้รวมตัวกันและตักเก็บไปทำงาย ส่วนที่เป็นหาดทราย ใช้รถแบคโฮตักและนำไปทำลาย เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน 10 ชม.ต่อวัน เนื่องจาก สารพิษเป็นอันตรายต่อร่างกาย
นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ชี้แจงว่า เมื่อรับแจ้งเหตุจากบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งจำกัด (มหาชน) กรมเจ้าท่า รีบดำเนินการปิดวาลว์ ระงับการใช้ท่าเรือ เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.65) ประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกัน สิ่งสำคัญ คือ เส้นทางการเดินเรือ กรมเจ้าท่า ออกประกาศให้ระมัดระวังไม่ให้เป็นอุปสรรคกับเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติงาน ส่วนเรื่องมลพิษ ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ เห็นว่า มลพิษ มีปริมาณมาก ร้องขอไปที่กองทัพเรือ ให้ปฎิบัติตามแผน การวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนที่ ลดการสูญเสีย เมื่อเช้านี้ กรมเจ้าท่า ส่งเรือไปช่วยกองทัพเรือ หากเรือสินค้าเห็นคราบน้ำมันให้ช่วยรายงานมาด้วย
น.ส.พรพิมล เจริญส่ง ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยเรื่องการตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล การอนุญาตให้ใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมัน มีทั้งหมด 32 ชนิด ในส่วนที่จะอนุญาตให้ใช้มีหน่วยงานนานาชาติ เป็นผู้อนุญาตอีกที อัตราที่อนุญาตให้ใช้ 1ต่อ 10 นอกจากนี้ยังมีหน้าที่จัดทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วย
ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กังวลเรื่องคราบน้ำมันที่จะกระทบหญ้าทะเล ประมาณ 300 ไร่ ปะการัง 150 ไร่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับเรื่องการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการตั้งกองทุนฟื้นฟูทรัพยากร ให้การทำงานมีความรวดเร็ว
#กองทัพเรือ
#ขจัดคราบน้ำมันรั่ว
#ระยอง
CR:กองทัพเรือ,กรมเจ้าท่า,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง