สภาหอการค้าสหภาพยุโรปในฮ่องกง หรือ ยูโรแชม (European Chamber of Commerce : EuroCham)ระบุในรายงานฉบับร่างว่า รัฐบาลฮ่องกงอาจจะเปิดเมืองตามปกติราวต้นปี 2567 เนื่องจากภาครัฐใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น เช่น การปิดชายแดนระหว่างประเทศ ห้ามชาวต่างชาติเข้าเมือง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจจะทำให้บริษัทต่างชาติย้ายฐานการลงทุนและพนักงานออกจากฮ่องกง ทั้งกระทบภาพลักษณ์การเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชียของฮ่องกง
ยูโรแชม กล่าวถึงเรื่องวัคซีนจีนว่า มีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศจีนยังคงใช้นโยบายควบคุมชายแดนระหว่างประเทศแบบเข้มข้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน คาดว่าฮ่องกงจะยังไม่เปิดเมืองไปจนกว่าประเทศจีนจะพัฒนาวัคซีนชนิดที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ได้สำเร็จ และกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 1,400 ล้านคนของจีนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาจนถึงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 ทางการจีนจึงจะดำเนินการเสร็จ
หากเป็นจริงเช่นนั้น ยูโรแชม คาดว่า จะมีผลกระทบในทางลบเช่น บริษัทต่างชาติส่วนใหญ่อาจจะย้ายฐานสำนักงานและฐานการลงทุนจากฮ่องกงไปตั้งที่อื่นๆแทน พร้อมคาดว่า การย้ายฐานการลงทุนของบริษัทต่างชาติในครั้งนี้อาจจะมีมากกว่าครั้งก่อนๆที่เคยเกิดขึ้นในฮ่องกง
เมื่อปีที่แล้ว ฮ่องกงประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จากใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เช่น ห้ามบินระหว่างประเทศเข้าฮ่องกง - ล็อกดาวน์ศูนย์กลางการแพร่ระบาด ซึ่งดำเนินการมาเป็นระยะๆทุกครั้งที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ในท้องถิ่น
ฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสม 13,519 คน เสียชีวิต 213 ราย
#ฮ่องกง
#สถานการณ์โควิด