หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นการป้องกันและปรามปราบการทุจริต ว่า เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกกระทรวงฯ กำชับ ดูแลหน่วยงานและกำลังพลในสังกัด การปลูกจิตสำนึกเชิงป้องกันและปราบปรามการทุจริต ยกตัวอย่าง การเดินทางไปดูงานต่างประเทศ หรือการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้ปรับลดลงตามความจำเป็น เพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่วนการเดินทางของผู้บริหาร หากจะเดินทางไปยังต่างประเทศ ควรเดินทางในเที่ยวบินชั้นประหยัด รวมถึงได้มีการมอบหมายให้ คณะกรรมการตรวจสอบงบประมาทภาครัฐ หรือ คตร. เข้าไปตรวจสอบองค์กรมหาชน ทุกองค์กร เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐานต่อไปส่วนงานด้านการประชาสัมพันธ์ นายกรัฐมนตรี อยากให้ทุกองค์กรควรสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ในภูมิภาคที่อาจจะยังได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ให้เพิ่มช่องทางต่างๆ เช่น กำหนดออกหนังสือพิมพ์เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ โดยจะต้องไม่ได้มีเจตนาจะโฆษณาผลงาน แต่เพื่อเป็นการรายงานให้ประชาชนรับทราบ พร้อมสั่งให้กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ หรือ ไอซีที นำข้อมูลต่างๆที่รัฐบาลดำเนินการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาขน ให้ไปบรรจุในแอพพิเคชั่น เช่นการแจ้งราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ และประโยชน์ในด้านต่างๆเพิ่มมากขึ้น
สำหรับด้านการศึกษานั้น นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดจัดตั้งซุปเปอร์บอร์ด ในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดระเบียบการศึกษา เพื่อให้ลงตัวมากขึ้น เช่น เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1จะต้องอ่านออกเขียนได้และต้องมีการประเมินผลที่เป็นรูปธรรม ,เด็กนักเรียนในระดับมัธยม ต้องมีวิชาเรียน ที่เสริมด้านวิชาชีพเข้าไปด้วย เพื่อที่จะมีทักษะในด้านอาชีวะ ,ควรส่งเสริมการศึกษาและวิชาชีพ จะต้องตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ,ในระดับอุดมศึกษาต้องทำการเชื่อมต่องานวิจัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ,และควรยกระดับภาษาอังกฤษให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการผลิตครู พันธุ์ใหม่ ให้มีความเข้มข้น ทางด้านความรู้ความสามารถในการตอบรับเด็กได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึง การจัดตลาดน้ำวิถีไทย คลองผดุงกรุงเกษมที่จบลงเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า มีกระแสตอบรับที่ดี และขอให้หน่วยงานในภูมิต่างๆนำไปดำเนินการบ้าง ส่วนในวันที่ 5 มีนาคม ก็จะมีการจัด ตลาดข้าว ตลาดไม้ดอกไม้ประดับ ที่ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำว่าต้องการให้ทุกจังหวัด ทั่วประเทศจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังอยากให้มีการเพิ่มการคมนาคมทางน้ำ เพื่อช่วยแบ่งเบาการจราจรบนท้องถนน
วิรวินท์ /ภาพ-ข่าว