หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีปฏิเสธถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ แต่ที่จะต้องปรับคือพฤติกรรมในการทำงาน รวมถึงการให้กำลังใจของบุคคลในองค์กร ขณะนี้การทำงานของฝ่ายต่างๆมีความคืบหน้า เช่น ความมั่นคง ,แต่ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่มีผลนั้น มาจากภาวะเศรฐกิจของโลกชะลอตัว ซึ่งก็ได้สั่งให้มีการเตรียมการรับมือล่วงหน้า
ส่วน การยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ยืนยันว่าไม่ใช่อำนาจพิเศษ แต่เป็นอำนาจทางทหาร ขณะนี้แนวทางการจัดการเลือกตั้งยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน สิ่งที่ต้องการเห็นในร่างรัฐธรรมนูญยังไม่มีการกำหนด เพียงแต่เป็นข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สปช. ที่เสนอเท่านั้น
สำหรับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่เปิดทางนายกรัฐมนตรีคนนอกนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องดูที่มาให้ชัดเจนเนื่องจากนายกรัฐมนตรี คนนอก จะเข้ามาในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และเพื่อป้องกันการหยิบยกกฎหมายต่างๆเข้าให้เกิดความขัดแย้ง
ด้านการทำงานของแม่น้ำทั้ง 4 สาย คือ คณะรัฐมนตรี ,สภาปฎิรูปแห่งชาติ ,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ,และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นั้นนายกรัฐมนตรี ระบุว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าต้องการที่จะเห็นภาพรวมอนาคตของประเทศไปในทิศทางใด ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน และการทำงานของรัฐบาลวันนี้ก็ไม่ได้เข้ามาเพื่อเตรียมการให้ใคร แต่เพื่อแก้ปัญหาประเทศให้เกิดการปฏิรูป
ส่วนการจัด ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. สัญจร ที่สวนสนประดิพัทธ์. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการประชุมให้เกิดการผ่อนคลายจากการทำงาน ส่วนแนวคิดการจัดระเบียบบนทางเท้าในกรุงเทพมหานครว่า หากเป็นไปได้จะดำเนินการให้พ่อค้าแม่ค้า นำสินค้าลงไปขายในคลองโดยจะมอบให้ กทม. เป็นผู้ดูแล เพื่อลดปัญหาการจราจร และอาจจะมีการจัดระเบียบคลองเพื่อการคมนาคมในอนาคต