รัฐบาลตองกา เปิดเผยว่า ร้อยละ 84 ของประชากร 105,000 คนของตองกาได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านของภูเขาไฟที่ปะทุจากใต้ทะเลและคลื่นสึนามิสูง 15 เมตรพัดถล่มเมื่อวันที่ 15 มกราคม มีคนเสียชีวิต 3 ราย สองรายแรกเป็นชาวตองกา คือ นางลาไตเมามี เลาอากี(Lataimaumi Lauaki) อายุ 49 ปีจากเกาะโมมูกา และนายเตไล เตตูอิลา (Telai Tetu'ila)อายุ 65 ปีจากเกาะแมงโก รายที่สามคือ นางอังเกลา โกลเวอร์(Angela Glover)ชาวอังกฤษวัย 50 ปี มีผู้บาดเจ็บหลายคน อาคารบ้านเรือน 150 หลังในพื้นที่ชายฝั่งของเกาะโนมูกา เสียหายอย่างหนัก
ด้านคณะทูตออสเตรเลีย ซึ่งปฏิบัติภารกิจเรื่องการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยในตองกา ระบุว่า ประชาชน 62 คนจากเกาะแมงโก หนึ่งในหมู่เกาะของตองกาที่ประสบภัยพิบัติอย่างรุนแรง ต้องย้ายที่พักอาศัยไปยังเกาะโนมูกาชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนและสิ่งของส่วนตัวเสียหายทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยได้ตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ประสบภัย หลังคลินิกเดิมเสียหายจากคลื่นสึนามิพัดถล่ม แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลตองกา ระบุว่า ชาวบ้านบางคนในกลุ่มที่ย้ายไปยังเกาะโมมูกาอาจจะต้องย้ายถิ่นฐานอีกครั้งไปยังเกาะหลักคือ เกาะตองกาตาปู(Tongatapu)เนื่องจาก เกาะโนมูกา ขาดแคลนทั้งอาหาร และสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
น้ำดื่มเป็นหนึ่งในสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่สำคัญสำหรับประชาชนในเกาะต่างๆของตองกา แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของตองการะบุว่า แม้ว่าจะมีคราบเถ้าถ่านจากการพวยพุ่งของภูเขาไฟ แต่ผลตรวจคุณภาพน้ำดื่มในแหล่งน้ำจืดบนเกาะต่างๆของตองกา ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ใช้ดื่มได้ ไม่มีอันตราย
ขณะเดียวกัน เรือและเครื่องบินที่ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์จากนานาชาติ โดยเฉพาะจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไปถึงตองกาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังหน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครท้องถิ่นเก็บกวาดคราบเถ้าถ่านของภูเขาไฟออกจากรันเวย์ ทำให้เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย
#ตองกา
#แผ่นดินไหว