เฟซบุ๊กเพจ Siriraj Institute of Clinical Research เผยผลการวิจัยของศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช พบการวิจัยเบื้องต้น การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันชนิด PVNT50 ต่อสายพันธุ์โอไมครอน ดังนี้
หากเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคสองเข็มมาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย
วัคซีนแอสตราเซเนกา จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 170
วัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 551
วัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 543
หากเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน แอสตราฯ สองเข็มมาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย
วัคซีนแอสตราเซเนกา จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 3
วัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 232
วัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 521
ส่วนการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันชนิด PVNT50 ต่อสายพันธุ์โอไมครอน ในวัคซีนสูตรไขว้ หากฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 และฉีดแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 มาแล้ว 12 สัปดาห์ เมื่อกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย
วัคซีนไฟเซอร์ครึ่งโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 204
วัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส จะได้ภูมิคุ้มกันต่อโอไมครอน 150
สรุป สำหรับป้องกันสายพันธุ์โอไมครอน หลังฉีดวัคซีนสองเข็มไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม ควรกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น, กระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ทั้งครึ่งโดสและเต็มโดส ให้ระดับภูมิคุ้มกันได้ดี และหากได้แอสตราเซเนกามาแล้วสองเข็ม ควรกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยไฟเซอร์เท่านั้น
#บูสเตอร์โดส
#ศิริราชพยาบาล