นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมทีมจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สรุปผลการทดสอบภูมิคุ้มกันการฉีดวัคซีนที่มีต่อไวรัสสายพันธุ์เดลตาและโอไมครอน
-ข้อมูลที่มีการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใช้ตัวไวรัสตัวเป็นๆ ไม่ใช่ไวรัสเทียมที่สามารถเพาะเชื้อได้มากพอในช่วงที่ผ่านมานำมาทดสอบ เป็นการเก็บเลือดหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 สัปดาห์ เป็นช่วงที่มีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะต่อสู้ได้ หลักการ คือ การเก็บน้ำเลือดของคนที่ได้รับวัคซีนเอามาปั่น และนำลงไปในจานทดลองที่มีเชื้อโอไมครอน เป็นการทดลองจากวัคซีน 8 สูตรในคนไทย เช่น ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า, แอสตร้าเซนเนก้า 2เข็ม, ไฟเซอร์ 2 เข็ม, ซิโนแวค+ไฟเซอร์, แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่ได้ทดสอบการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม เนื่องจาก มีการเปลี่ยนเป็นสูตรไขว้
-วัคซีนทุกสูตรมีความจำเป็น ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการหนัก ช่วยลดการเสียชีวิต แต่วัคซีน 2เข็ม ไม่เพียงพอที่จะสู้กับโอไมครอน ดังนั้น การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยสร้างให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังหาเลือดมาตรวจคนที่ฉีดสูตรไขว้ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ จะเริ่มทดสอบเพื่อดูภูมิคุ้มกันว่าเป็นอย่างไร
กรณีที่ระบุว่า คนที่ติดเชื้อโอไมครอน ภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันเชื้อเดลตาได้ด้วย กำลังทดสอบเพิ่ม เนื่องจากประวัติวัคซีนยังไม่ชัดเจน รอข้อมูลชัดเจนก่อนจะมีการแถลง
ส่วนสูตรการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เดือนม.ค.65
-ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า ครบเดือนส.ค.-ต.ค.64 กระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า เป็นหลัก
-แอสตร้าเซนเนก้า 2เข็ม ครบเดือนส.ค.-ต.ค.64 กระตุ้นด้วยไฟเซอร์
-ซิโนแวค 2 เข็ม หรือ ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป กระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า
-ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ฉีดวัคซีนไม่ครบ หรือ ครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนติดเชื้อ กระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า
*สามารถใช้สูตรอื่นที่ผ่านการรับรองทางวิชาการได้ ภายใต้จำนวนวัคซีนที่มีในพื้นที่
#กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
#วัคซีนเข็มกระตุ้น
#การสร้างภูมิคุ้มกัน