อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงโควิด-19 มีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามสถานการณ์ของโลกเช่นกัน ดังนั้น การสื่อสารการตลาดจึงต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร แหล่งรวมความรู้เชิงวิชาการด้านการท่องเที่ยว นำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื้อหากระชับ ฉับไว ทันต่อสถานการณ์ อัปเดตอยู่เสมอ รวมถึงตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุมและตรงตามความต้องการ
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เห็นถึงความสำคัญของการนำเสนอข้อมูลความรู้เชิงวิชาการด้านการตลาดท่องเที่ยวและความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวยุคใหม่และผู้ที่สนใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดทำ TAT Review ปรับโฉมใหม่ ในรูปแบบ E-Magazine ผ่าน เว็บไซต์ www.tatreviewmagazine.com โดยเน้นช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ด้วยการนำความรู้เรื่องการท่องเที่ยวมาเผยแพร่ทางออนไลน์มากขึ้น เป็นการการเติมอาหารสมอง เปิดมุมมองใหม่ๆ อัปเดต ทุกความเคลื่อนไหวในวงการท่องเที่ยวทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก ผลงานวิจัยด้านการตลาดการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แนวโน้มตลาดทั้งในส่วนของพฤติกรรมนักท่องเที่ยว และแนวโน้มของสินค้าและบริการและบทสัมภาษณ์ในประเด็นที่อยู่ในความสนใจ
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปสู่วิถีใหม่ (New Normal) มากขึ้น สะท้อนการพลิกโฉมการท่องเที่ยวในหลายมิติ ทำให้เรามองเห็นเทรนด์ที่น่าจะเข้ามาเติมเต็มการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีนี้ ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งที่น่าจับตา และสามารถนำไปใช้วางเป้าหมายเพื่อให้ทิศทางการทำงานชัดเจนยิ่งขึ้น จากข้อมูลการตลาดเกี่ยวกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่นั้น ททท. ขอเสนอ Tourism Trends that will Shake Up 2022 and Beyond 7 แนวโน้มท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
1.) The Grand Reunion – ออกเดินทางเพื่อกลับมาเจอกัน
ในช่วงที่ผู้คนต้องห่างกัน โชคดีที่มีเทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้เราได้สื่อสารกันได้แม้ไม่ได้พบหน้ากันในชีวิตจริง และจุดสำคัญนี้เองคือตัวกำหนดให้เทรนด์นี้บูมขึ้นมาหากจบวิกฤต จากผลวิจัยที่รองรับว่าในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ความสุขที่แท้จริงของผู้คนจะเกิดจากสัมพันธภาพที่เข้มแข็งจากคนรอบข้าง จึงบอกได้ว่าปี 2022 จะเป็นปีที่ผู้คนกลับมา ‘รียูเนียน’ กันครั้งใหญ่ เห็นได้จากกระแสตอบรับยอดจองจาก Big Cottages บริษัทนำเที่ยวในอังกฤษที่ เปิดเผยว่า การเดินทางแบบหมู่คณะใหญ่เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดินทางแบบส่วนตัวที่เติบโตถึง 600% ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา แปลว่า นอกจากการท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายแล้ว การเดินทางเพื่อไปมาหาสู่กันระหว่างเพื่อนฝูงและญาติมิตรก็จะเติบโตไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง
2.) Sincerely Green – แบรนด์ต้องตั้งใจจริงกับความยั่งยืน
นักท่องเที่ยว ให้ความสำคัญและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวในแบบฉบับที่มีความยั่งยืนมากที่สุด จากข้อมูลของ Wunderman Thompson ชี้ว่า ผู้คนกว่า 70% พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ตัวเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เห็นชัดว่าปัจจุบันผู้นำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคือผู้ที่มีแนวคิดรับผิดชอบ ธุรกิจที่เกิดมาพร้อมความ ‘ตั้งใจจริง’ เพื่อจัดสรรวิธีการให้โลกดีขึ้นจะอยู่รอดและยั่งยืนในระยะยาว หากจะจับใจนักท่องเที่ยวต้องแสดงความจริงใจควบคู่ไปด้วย ที่สำคัญต้องชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้ทำให้สภาพแวดล้อมหรือสังคมดีขึ้นเป็นรูปธรรมชัดเจน นับว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์โลกธุรกิจที่จะพูดถึงกันได้อย่างไม่รู้จบ
3.) Welcome to the Metaverse – โอกาสในโลกเสมือนจริง
การเดินทางแบบ Virtual ซึ่งอาจจะเป็นตัวแทนของการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ไม่ต้องระบุวันเดินทางไป-กลับ จนทุกคนสามารถเลือกได้หมดว่าอยากจะไปที่ไหน หรือช่วงเวลาใด ไม่ว่าจะเป็นการย้อนกลับไปเที่ยว London ในยุค 70s หรือจะย้อนไปชมอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในยุคอียิปต์โบราณ และหากทำความเข้าใจให้ดีก็จะช่วยเป็นสื่อกลางคอยเชื่อมโยงผู้คน เพราะต้องอย่าลืมว่าเบื้องหลังความแปลกใหม่ คือการช่วยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้มากขึ้นแบบไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลา ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้สนุกกับการใช้จินตนาการในทุกที่ที่จะเดินทางไป โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่มีข้อจำกัดทางกายภาพ ซึ่งก็ตอบโจทย์เทรนด์โลกในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
4.) Innovation for a Betterment – นวัตกรรมที่เปลี่ยนให้โลกน่าอยู่
ในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่น เราเห็นว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่มีความน่าสนใจ แต่ยังกลายเป็นพลังสำคัญช่วยเปิดทางให้ผู้คนได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น อย่าง Hyperloop หรือเที่ยวบินความเร็วเหนือเสียง (Supersonic) ที่ไร้มลพิษ ใช้พลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเราคงจะได้ใช้เทคโนโลยีการคมนาคมขนส่งที่ทรงพลัง รวดเร็ว และสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยย่นระยะการเดินทางที่ยาวนานให้สั้นลงอย่างไม่เคยมาก่อน นับได้ว่าปี 2022 คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สุดปีหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้
5.) Crypto Tripo – เที่ยวด้วยคริปโต
‘คริปโตเคอเรนซี’ จะเป็นอีกทางเลือกสำคัญในการชำระเงินในอนาคตไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ล่าสุด เริ่มมีธุรกิจน้อยใหญ่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายด้วยเงินคริปโต เช่น The Pavillions Hotel & Resorts เครือโรงแรมดังจากเกาะฮ่องกงซึ่งร่วมกับ Coindirect เกตเวย์การชำระเงินคริปโตชั้นนำระดับโลกจากเกาะอังกฤษ นับเป็นโรงแรมแรก ๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวที่ถือ Bitcoin หรือ Ethereum และเหรียญอื่น ๆ รวมกว่า 40 สกุล ได้จองที่พักและชำระเงินอย่างสะดวกสบายไม่ต่างกับการจ่ายด้วยเงินสดหรือรูดบัตรเครดิต เช่นเดียวกับซุปเปอร์ยอร์ช Azteca ที่จะส่งมอบให้กับมหาเศรษฐีที่มี Bitcoin มากพอเท่านั้น
6.) Workationer – งานได้ เที่ยวดี
คำว่า ‘เครียด’ และ ‘วิตกกังวล’ ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ข้อสังเกตแรกที่ชัดเจนมากคือผู้คนกำลังหาสมดุลในชีวิตกันมากขึ้น ตรงนี้เองที่ทำให้แนวโน้มการทำงานไปเที่ยวไปกลายเป็นโมเดลท่องเที่ยวที่จะเติบโตได้เร็วกว่าที่ผ่านมา แม้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศงานก็ยังออกมา ‘เวิร์ก’ ได้ชีวิตกลับมา ได้อยู่กับครอบครัว แถมยังมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น
7.) Collab not Combat - ร่วมคิด ร่วมขาย เทรนด์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือโอกาสที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ใหม่
บริษัทน้อยใหญ่ทั่วโลก ต่างหันมาร่วมมือกัน ต่อสู้กับวิกฤตโดยการใช้ความรู้และสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างถนัดมาแก้ปัญหาซึ่งนอกจากจะช่วยให้ ‘วิน’ กันทั้งคู่ ยังสร้างอิมแพ็คได้แรงกว่าเดิม ใครจะไปคิดว่าคู่แข่งระดับโลกอย่าง Burger King และ McDonald’s จะมาทำงานร่วมกันได้ นอกจากแคมเปญเหล่านี้จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าแล้ว ยังเปิดโอกาสการขายใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ เหล่านี้ทำให้เราเรียนรู้ว่าภาคท่องเที่ยวก็ต้องร่วมมือกันเพื่อข้ามอุปสรรคสุดท้าทายครั้งนี้เช่นกัน โดยมีข้อมูลการศึกษาชี้ว่า 90% ของผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อว่าความร่วมมือทางธุรกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ และ 76% เผยว่าได้เปลี่ยนคู่แข่งมาเป็นคู่ค้าเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ได้เชิญนักเขียนที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ทางด้านการท่องเที่ยว มาร่วมเขียนบทความ อาทิ คุณโตมร ศุขปรีชา คุณปฐวี ธุระพันธ์ เป็นต้น รวมถึง การนำเนื้อหาบทความท่องเที่ยวจาก อสท. เพื่อสร้างสีสันให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น และโอกาสต่อไป จะจัดกิจกรรมเสวนาทางวิชาการ “Tourism Trend Talk ท่องเที่ยว เทค” นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมีบทบาทและความสำคัญในการช่วยเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร
#เทรนด์เที่ยวไทย
รมว.ต่างประเทศสหรัฐ พบ ประธานาธิบดีจีน ย้ำความเป็นพันธมิตร ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
...
กลุ่มฮามาส พร้อมปลดอาวุธหากปาเลสไตน์เป็นเอกราช
...
รรท.ผบ.ตร. ย้ำไม่อคติ ปม คำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ
...
ข่าวทั้งหมด
