สธ. เสนอศบค. ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด แนะเปิดวอล์คอินวัคซีนเข็มแรก

14 มกราคม 2565, 14:07น.


          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เป็นต้นมา แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และมีโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทยแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือห้องไอซียูไม่ได้มีจำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตในแต่ละวันยังมีจำนวนลดลง อยู่ในระดับไม่เกิน 20 ราย มาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้มีความมั่นใจได้ว่าสายพันธุ์โอไมครอนแม้จะติดเชื้อได้ง่าย แต่มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา เมื่อสถานการณ์เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งเสนอให้กับ ศบค.ได้มีการผ่อนคลายมาตรการให้มากที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้ามีเหตุที่เป็นอันตรายต่อประชาชนในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งเสนอให้มีมาตรการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก



          ยืนยันว่า รัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ต่อสู้กับโควิด-19 เข้าปีที่ 2 แล้ว



          ในส่วนของข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขอให้ยึดถือข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่เป็นหลัก



          โดยในขณะนี้ วัคซีนได้ทำงานของเขาแล้ว และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความปลอดภัย ไม่มีการสูญเสียชีวิต เพราะฉะนั้นจากการสำรวจที่มีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่หลายคนไปถึงเข็มที่ 3 แล้ว จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกขอให้มารับวัคซีน โดยให้นโยบายไปว่า ผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรกไม่ต้องไปจอง สามารถวอล์คอินได้เลย เพื่อสร้างแรงจูงใจ เพราะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอาจมีปัญหาในการเข้าถึง สำหรับผู้ที่ปฏิเสธวัคซีน ขอความกรุณาว่าอย่าปฏิเสธวัคซีน เพราะวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหามา เป็นวัคซีนที่มีมาตรฐานในการป้องกันการติดเชื้อ การเจ็บป่วยหนักรวมถึงเสียชีวิตได้



          นอกจากนี้ เด็กอายุ 5-12 ปี ขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเริ่มฉีดวัคซีนได้ ซึ่งทางบริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตวัคซีน ยืนยันว่าสามารถฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปีได้ โดยภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีวัคซีนไฟเซอร์ที่ขึ้นทะเบียน สำหรับฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปี มากเพียงพอครอบคลุมเด็กทุกคน



         ขณะเดียวกัน อย.กำลังเร่งพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนแวคให้กับกลุ่มเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป ถ้าเอกสารเรียบร้อย ทางอย.ได้พิจารณาแล้วมีความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับของสากล สธ. ก็พร้อมสั่งซื้อเข้ามาเพื่อให้มีความเพียงพอมากที่สุดสำหรับทุกช่วงอายุ



          สำหรับเรื่องเวชภัณฑ์ทางองค์การเภสัชกรรม ได้มีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขว่าจะไม่ให้มีปัญหาขาดแคลน โดยเฉพาะยารักษาโรคโควิด-19 เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดหาไว้จำนวนมากเพียงพอ ขณะที่องค์การเภสัชกรรมได้เตรียมสารตั้งต้นเพื่อที่จะผลิตเองสำรองไว้ กับยังมีการสำรองยาโมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด ไว้ด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วย



...



#กระทรวงสาธารณสุข



#ผ่อนคลายมาตรการ



 

ข่าวทั้งหมด

X