ศาลฎีกาสหรัฐฯ สั่งห้ามบริษัทบังคับพนักงานไปรับวัคซีน

          ศาลฎีกาสหรัฐฯมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้อนุมัติมาตรการของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯว่าด้วยการบังคับให้พนักงานของบริษัทเอกชนทั่วสหรัฐฯไปรับวัคซีนและตรวจโรคโควิด-19 มีผลบังคับทั่วประเทศ ยกเว้นมาตรการบังคับให้บุคลากรการแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งอยู่ในสังกัดหน่วยงานของรัฐ ไปรับวัคซีน ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่า คำสั่งของศาลฎีกาส่งผลเสียต่อความพยายามของนายไบเดนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ

          ศาลฎีกา ระบุเหตุผลว่า การที่สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการจัดทำมาตรการปกป้องความปลอดภัยของสถานประกอบการ ออกมาตรการบังคับให้พนักงานของบริษัทเอกชนทั่วประเทศไปรับวัคซีนเป็นการใช้อำนาจเกินจากขอบเขตแห่งอำนาจแห่งรัฐในการบังคับภาคเอกชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

          ศาลฎีกา ระบุว่า แม้ว่า สภาคองเกรสจะมอบหมายให้สำนักงาน OSHA มีอำนาจออกกฎระเบียบต่างๆเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในสถานประกอบการ แต่ไม่ได้มอบอำนาจให้มากถึงขนาดให้สามารถออกมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขด้วย ระบุว่า การที่สำนักงาน OSHA ออกมาตรการบังคับให้บริษัทที่มีพนักงานกว่า 100 คน ต้องให้พนักงานไปรับวัคซีน ถือเป็นการใช้อำนาจที่เกินเลยขอบเขตแห่งอำนาจของหน่วยงานรัฐ ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย

          ตรงกันข้าม ศาลแนะนำว่า หน่วยงานอื่นของรัฐ สามารถออกกฎระเบียบซึ่งเป็นการใช้อำนาจในขอบเขตแห่งกฎหมาย เช่น ออกกฎระเบียบเรื่องนี้ เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วยภายใต้โครงการช่วยเหลือด้านสุขภาพ ที่เรียกว่า เมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid)ของสหรัฐฯ เช่นนี้ สามารถจะกระทำได้

          ที่ผ่านมา นายไบเดน ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนไปรับวัคซีนมาหลายเดือน จนกระทั่งในที่สุด นายไบเดนได้ออกมาตรการบังคับให้พนักงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐฯไปรับวัคซีน โดยนายไบเดนมองเรื่องนี้ว่ามาตรการเชิงบังคับเช่นนี้ จะส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่รับวัคซีนให้ไปรับวัคซีนโดยเร็ว

#สหรัฐฯ

#มาตรการบังคับฉีดวัคซีน