เข็ม4 ! เริ่มฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัวก่อน

12 มกราคม 2565, 16:27น.


          การฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 4 ในประชาชนทั่วไป นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรด่านหน้า และประชาชนที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังที่ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลงเร็วกว่าคนทั่วไป เช่น ผู้สูงวัย ผู้กินยากดภูมิ จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเนื่อง โดยหากได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว นาน3 เดือน สามารถมารับเข็ม 4 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ หากรับเข็ม 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ก็รับเข็ม 4 เป็นแอสตร้าฯ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นาได้ แต่หากเข็ม 3 เป็นไฟเซอร์ ก็ให้รับเข็ม 4 เป็นไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ส่วนของเข็ม 5 หากจะต้องฉีด เราก็เตรียมเอาไว้เช่นกัน โดยคนที่ร่างกายแข็งแรงดี แต่ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจะพิจารณาอีกครั้ง ว่าให้มารับเข็ม 4 อย่างเป็นทางการเมื่อไร



          ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึง วัคซีนโควิดในเด็กอายุ 5-11 ปี ว่า อย.อนุญาตวัคซีนไฟเซอร์ในการฉีดเด็ก 5-11 ปี มีขนาดโดสต่างจากผู้ใหญ่ ซึ่งกรมควบคุมโรคแจ้งว่าบริษัทจะส่งวัคซีนสำหรับฉีดในเด็กถึงไทยปลาย ม.ค.นี้ และจะพร้อมฉีดใน ก.พ. ทั้งนี้ ตัววัคซีนเป็นชนิดเดียวกันกับผู้ใหญ่ แต่ผู้ผลิตปรับสูตรการผสมน้ำกลั่นและความคงตัว ทำให้วัคซีนเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซสเซียสได้นาน 2 เดือน ซึ่งเป็นข้อดีว่าจะใช้และเก็บรักษาได้ง่ายขึ้น



          สำหรับวัคซีนเชื้อตายซิโนแวคและซิโนฟาร์มในเด็ก ขณะนี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าซิโนแวค ส่งเอกสารเรื่องความปลอดภัยในเฟส 1, 2 และ 3 มาแล้ว เหลือเอกสารด้านประสิทธิภาพ เนื่องจาก ผู้ผลิตเก็บข้อมูลใน 4 พื้นที่ ใช้เวลาศึกษาตั้งแต่ พ.ย.2564 ซึ่งเข็ม 1 จะฉีดห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 1 เดือน และจะต้องเก็บข้อมูลว่า หลังฉีด 1 เดือนแล้วระดับภูมิคุ้มกันจะขึ้นสูงอย่างไร เบื้องต้นจะใช้เวลาเร็วที่สุดคือ 2 เดือน



          ดังนั้น อย.ก็ได้แจ้งกับ อภ.ว่าให้ติดต่อกับผู้ผลิตในจีน เพื่อติดตามเอกสารในส่วนนี้ คาดว่าจะได้ข้อมูลมาครบไม่น่าจะเร็วกว่าปลาย ม.ค. ข้อดีของซิโนแวค คือวัคซีนที่นำไปศึกษาในเด็กเป็นตัวเดียวกับผู้ใหญ่ ซึ่งเรามีอยู่ในคลัง จะต่างจากไฟเซอร์ที่ต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่สำหรับเด็ก



          ดังนั้น อย.ประเมินของไฟเซอร์แล้ว ซึ่งจากการฉีดเด็กอายุ 12-18 ปี ผลข้างเคียงไม่ได้มากอย่างที่กลัวกัน ไม่ค่อยมีปัญหา และเด็กเล็กขนาดโดสลดลง เราก็ประเมินว่ามีความปลอดภัย ซึ่งการฉีดเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง



          ส่วนประสิทธิผลวัคซีนซิโนแวคในเด็ก ผู้ผลิตบอกว่าจะรองรับสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่ นพ.สุรโชค กล่าวว่า การประเมินประสิทธิภาพวัคซีน ดูเรื่องระดับภูมิคุ้มกันภาพรวมและต่อสายพันธุ์ต่างๆ แต่การเก็บข้อมูลเริ่มใน 4 พื้นที่ เช่น ชิลี เมื่อ พ.ย. 2564 ตอนนั้นยังไม่มีโอไมครอน ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมีข้อมูลประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์อื่นๆ ระบุไว้ ก็จะประเมินในส่วนของโอไมครอนได้เช่นกัน เหมือนที่มีการศึกษาวัคซีนแต่ละชนิด



 



#โควิด19



#วัคซีนเข็ม4



 

ข่าวทั้งหมด

X