ผลการเจรจานาน 7 ชั่วโมง ระหว่างนายเซอร์เก ราบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย และนางเวนดี้ เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.65) หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้ว สหรัฐฯ เปิดเผยข่าวกรอง ระบุว่า รัสเซียอาจจะบุกยึดครองยูเครนในช่วงต้นปีนี้ และเตรียมกำลังทหาร 100,000 คน ใกล้พื้นที่ชายแดนรัสเซีย-ยูเครน ทำให้สหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) วิตกกกังวลว่าอาจจะเกิดภัยคุกคามที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของโลก
บีบีซี รายงานว่า นายราบคอฟ ได้บอกกับนางเวนดี้ว่า รัสเซียไม่เคยมีแผนรุกรานยูเครนตามที่หลายฝ่ายรวมทั้งสหรัฐฯหวั่นวิตก นายราบคอฟ แถลงหลังการประชุมว่า รัสเซียได้ชี้แจงต่อคณะผู้แทนจากสหรัฐฯว่า การเคลื่อนย้ายหน่วยจู่โจมและกำลังพลจากหน่วยต่างๆ เพื่อฝึกซ้อมด้านยุทธการต่างๆอยู่ภายในดินแดนของรัสเซียจึงไม่มีสาเหตุให้น่ากังวลว่ารัสเซียจะยกระดับความตึงเครียด เช่น รุกรานยูเครน
ด้านนางเชอร์แมน กล่าวถึง บรรยากาศการพูดคุยครั้งนี้ว่า พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาความกังวลด้านความมั่นคงของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน อีกประเด็นหนึ่งที่รัสเซียเสนอให้สหรัฐฯพิจารณา แต่สหรัฐฯไม่รับปากว่าจะดำเนินการให้ได้คือ รัสเซียขอให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ซึ่งมีสหรัฐฯเป็นแกนนำ มีมติไม่รับรองยูเครนเป็นสมาชิกใหม่ของนาโต สหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้เพียงลำพัง เป็นเรื่องที่สมาชิกนาโตจะตัดสินใจร่วมกัน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีสัญญาณชี้ว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในสาระสำคัญๆระหว่างการเจรจา สหรัฐฯเตือนรัสเซียว่า สหรัฐฯอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพื่อลงโทษรัสเซีย ถ้าหากรัสเซียตัดสินใจรุกรานอาณาเขตของยูเครน ขณะเดียวกัน รัสเซีย เตือนสหรัฐฯเช่นเดียวกันว่า สหรัฐฯไม่ควรจะประเมินศักยภาพของรัสเซียต่ำกว่าความเป็นจริง ในการสู้รบกับสหรัฐฯและชาติตะวันตก
#สหรัฐฯหารือรัสเซีย
#ยูเครน