การแถลงต่อประชาชนทั่วประเทศผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐในวันนี้ ประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ท โตกาเยฟ แห่งคาซัคสถาน มีคำสั่งให้กองกำลังรักษาความมั่นคงของคาซัคสถานเร่งรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ หลังการประท้วงเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ บานปลายมาเป็นการประท้วงขับไล่รัฐบาล มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของคาซัคสถานเสียชีวิต 18 ราย ขณะที่ผู้ประท้วงเสียชีวิต 26 ราย ผู้ประท้วงกว่า 3,000 คนถูกจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายโตกาเยฟ ระบุว่า ผู้ประท้วงบางคนยังคงใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องเช่น เผาทำลายทรัพย์สินของรัฐและเอกชน ทั้งใช้อาวุธยิงประชาชนด้วยกัน เพิ่มเติมว่า ผู้ก่อการร้ายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องใช้อาวุธ และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข่าวลือต่างๆเพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน อยู่เบื้องหลังการประท้วงในครั้งนี้
อีกทั้งพฤติกรรมของฝ่ายผู้ประท้วงบ่งชี้ว่า พวกเขามีแผนการที่ชัดเจนในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ความมั่นคง การเผาสถานที่ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัดอัลมาตี และอาคารสาธารณะ เช่น สนามบิน ให้ได้รับความเสียหายให้มากที่สุด ทั้งทำลายบรรยากาศแห่งความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ
นายโตกาเยฟ กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานว่า เริ่มมีความมั่นคงขึ้นโดยลำดับ หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินรวม 2 สัปดาห์ ห้ามประชาชนออกจากเคหสถานในยามค่ำคืนตั้งแต่เย็นวันอังคาร (4 มกราคม 2565)ไปจนถึงวันที่ 19 มกราคม
ด้านนายสตานิสลาฟ ซาส เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (CSTO) ซึ่งรัสเซีย เป็นแกนนำ เปิดเผยกับสื่อรัสเซียว่า ทหารจากองค์การ CSTO ราว 3,600 คนเข้ามาปฏิบัติภารกิจในคาซัคสถาน ประเทศเอกราชที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต เพื่อช่วยปกป้องทำเนียบรัฐบาล สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์และรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงท้องถิ่นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
#คาซัคสถาน
#การประท้วง