เจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียเดินทางมาถึงคาซัคสถานตามคำร้องขอของประธานาธิบดี คาสซิม-โจมาร์ต โตกาเยฟ ผู้นำคาซัคสถาน เพื่อร่วมรักษาความสงบ หลังจากที่การประท้วงการปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (2 ม.ค.) มีความรุนแรงมากขึ้นที่เมืองอัลมาตีซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด มีรายงานเสียงปืนดังขึ้นในหลายจุดและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น กับมีเหตุวางเพลิงอาคารของทางการ ผู้ประท้วงหลายร้อยคนถูกจับกุม ซึ่งประธานาธิบดีโตกาเยฟ ระบุว่าผู้ก่อเหตุจลาจลส่วนหนึ่งคือผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการฝึกจากต่างประเทศ
ในการกล่าวแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ ประธานาธิบดี โตกาเยฟ เปิดเผยว่าได้ยื่นอุทธรณ์ต่อองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (Collective Security Treaty Organisation - CSTO) ที่นำโดยรัสเซียเพื่อขอความช่วยเหลือในการปราบปรามการประท้วง โดยสมาชิกของกลุ่มประกอบด้วย รัสเซีย คาซัคสถาน และอดีตสหภาพโซเวียต เบลารุส ทาจิกิสถาน และอาร์เมเนีย ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 2,500 นายในนามกองกำลังรักษาสันติภาพเพื่อปกป้องสถานที่ของทางการและกองทัพ ที่อาจมีการปฏิบัติภารกิจเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
กระทรวงกิจการภายในคาซัคสถาน รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเสียชีวิต 18 รายและผู้ก่อเหตุจลาจลอีกนับสิบคน กับมีผู้ที่ถูกจับกุม 2,298 คน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่ากำลังติดตามการเคลื่อนย้ายกำลังทหารรัสเซียอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐฯ และคนทั่วโลกจะจับตาดูการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการกระทำใด ๆ ก็ตามที่เป็นการยึดครองคาซัคสถาน นอกจากนี้ สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส เรียกร้องให้ทุกฝ่ายงดเว้นการใช้ความรุนแรง
...
#คาซัคสถาน
#รัสเซีย