วันนี้ (6 มกราคม 2565) ครบ 1 ปี หลังเหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันบุกก่อเหตุจลาจลในอาคารสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 หวังล้มการประชุมลงมติรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยวุฒิสภาสหรัฐฯว่า นายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563
นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายไบเดน จะแถลงจากทำเนียบขาวในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของเหตุการณ์นี้ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยนายไบเดน จะย้ำว่า นายทรัมป์ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว พร้อมกล่าวหานายทรัมป์แพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้ชาวอเมริกันและกลุ่มผู้สนับสนุนของพรรครีพับลิกันเข้าใจคลาดเคลื่อนในทำนองว่า นายทรัมป์ถูกโกงเลือกตั้งอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งกล่าวหานายทรัมป์ว่าไม่ทำหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศอย่างที่ควรจะเป็น จนกระทั่งเกิดเหตุวุ่นวายดังกล่าว
เหตุจลาจลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกลุ่มผู้สนับสนุนของนายทรัมป์ชุมนุมกันที่บริเวณอุทยานเอลลิป ซึ่งตั้งอยู่นอกบริเวณทำเนียบขาว ไม่พอใจบุกเข้าก่อเหตุจลาจลในอาคารสภาคองเกรส ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน หลังนายทรัมป์ แสดงความไม่มั่นใจว่าเขาจะชนะการเลือกตั้ง กล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งของสหรัฐฯอาจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และจะประกาศรับรองให้นายไบเดนชนะการเลือกตั้ง
เหตุการณ์นี้ ส่งผลให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรคเดโมแครต ครองเสียงส่วนใหญ่ ลงมติให้ไต่สวนถอดถอนนายทรัมป์จากตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่สอง ขณะเดียวกัน สำนักงานสอบสวนกลาง(เอฟบีไอ)ของสหรัฐฯได้สอบสวนคดีนี้ จับกุมผู้ก่อเหตุจลาจล 700 คนและอีกหลายคนอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องเหตุการณ์ต่างๆก่อนนำไปสู่การก่อเหตุจลาจลดังกล่าว
ขณะที่คนใกล้ชิดสองคนของนายทรัมป์คือ นายมาร์ค มีโดว์ และนายสตีฟ แบ็นนอน ถูกดำเนินคดีอาญาฐานละเมิดอำนาจของสภาคองเกรส หลังได้รับหมายเชิญให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสั่งการต่างๆจากนายทรัมป์ช่วงก่อนเกิดเหตุจลาจล แต่ทั้งสองคนไม่ยอมไปเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ
#สหรัฐฯ
#เหตุจลาจลในสภา