สิงคโปร์พบติดเชื้อโอไมครอนร้อยละ 17 คาดแซงหน้าเดลตา

03 มกราคม 2565, 16:44น.


         สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของสิงคโปร์ในวันนี้ นายออง เย กุง รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ไวรัสโอไมครอนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ของผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดในสิงคโปร์ในปัจจุบัน กำลังจะแซงหน้าไวรัสเดลตาในเร็วๆนี้ และจะกลายเป็นไวรัสหลักที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกต่อไปในสิงคโปร์



          ดังนั้น โครงการวัคซีนทั้งการฉีดวัคซีนสองเข็มแรกและวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่สามยังคงเป็นมาตรการสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน นอกจากนั้น เด็กอายุ 9-11 ปี กว่า 20,000 คนเริ่มเข้ารับวัคซีนเข็มแรกในวันนี้



         รัฐมนตรีสาธารณสุข สิงคโปร์ กล่าวถึงระบบสาธารณสุขของสิงคโปร์ว่า มีความเข้มแข็ง พร้อมทั้งในแง่ของบุคลากรการแพทย์และเตียงคนไข้ พร้อมรับมือกับการระบาดของไวรัสโอไมครอน ระบุว่าในปัจจุบัน คนไข้ 1,200 คนยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆของสิงคโปร์ เทียบกับตัวเลขช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดหนักที่สุดในปีที่แล้ว มีคนไข้นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศจำนวนกว่า 26,000 คน



         ในปัจจุบันมีคนไข้ที่ป่วยหนักรวม 20 คน เทียบกับช่วงพีค หรือผู้ป่วยไอซียูมากที่สุดในปีที่แล้วราว 170 คน ส่วนเรื่องอัตราการเสียชีวิต นายออง ระบุว่ายังอยู่ในอัตราที่ต่ำ คนไข้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสเดลตา ยังไม่มีคนเสียชีวิตจากไวรัสโอไมครอนในสิงคโปร์



         สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ สิงคโปร์พบผู้ป่วยใหม่ 429 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสม 280,920 คน รวมทั้งผู้ป่วยจากไวรัสโอไมครอน 55 คน เสียชีวิต 829 ราย ร้อยละ 41 ของประชากร 5.6 ล้านคนของสิงคโปร์รับวัคซีนเข็มที่สามหรือวัคซีนบูสเตอร์แล้ว



 



 



#สิงคโปร์



#ไวรัสโอไมครอน

ข่าวทั้งหมด

X