นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO)เปิดเผยว่า การระบาดพร้อมๆกันของไวรัส 2 ตัวคือ เดลตาและโอไมครอน เปรียบเสมือนคลื่นยักษ์สึนามิสร้างความปั่นป่วนระบบสาธารณสุขทั่วโลกเป็นสายพันธุ์หลักที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวนี้ ทั่วโลกมีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 900,000 คนต่อวัน
นพ.ทีโดรส เตือนว่า ลักษณะการระบาดในลักษณะเช่นนี้จะยังคงเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นไปจนถึงปีหน้า ตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลส่วนใหญ่จะประสบปัญหาขาดแคลนเตียงคนไข้ ทั้งปัญหานี้อาจจะกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมขอให้ทั่วโลกตั้งเป้าหมายในโอกาสปีใหม่นี้ จะผลักดันให้โครงการฉีดวัคซีนให้คืบหน้ามากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมาย ร้อยละ 70 ของประชากรโลกได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มภายในกลางปีหน้า ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เกือบ 100 ประเทศทั่วโลกยังไม่บรรลุเป้าหมายเดิมคือ ให้ร้อยละ 40 ของประชากรรับวัคซีนเข็มแรกภายในสิ้นปีนี้
นพ.ทีโดรส ยังพูดถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในเรื่องการกระจายวัคซีนทั่วโลก ระบุว่าการที่ประเทศร่ำรวยมีความคืบหน้าเรื่องการกระจายวัคซีนจนถึงขั้นที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่สามหรือวัคซีนบูสเตอร์ให้กับประชากรของประเทศเป็นประเด็นหนึ่งที่อาจจะทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 ยืดเยื้อต่อไป เนื่องจาก ทำให้ประเทศที่มีฐานะยากจนส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีน อัตราการกระจายวัคซีนในกลุ่มประเทศยากจนจึงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเท่ากับเปิดช่องให้เชื้อไวรัสระบาดนานยิ่งขึ้นและกลายพันธุ์มากขึ้น
การแถลงเรื่องนี้ขององค์การอนามัยโลกมีขึ้น ขณะที่สหรัฐฯและหลายประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เดนมาร์ก โปรตุเกส อังกฤษและออสเตรเลีย มีผู้ป่วยเพิ่มเป็นสถิติใหม่ โดยเฉพาะสหรัฐฯพบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 265,427 คนต่อวันในสัปดาห์ก่อน
ด้านนพ.แอนโทนี เฟาชี หัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ คาดว่า การระบาดของไวรัสโอไมครอนในสหรัฐฯอาจจะถึงจุดพีค คือ มีผู้ป่วยมากที่สุดช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า
ส่วนในฝั่งยุโรป ฝรั่งเศสพบผู้ป่วยรายใหม่ 208,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับเป็นวันที่สองติดต่อกันที่ตัวเลขผู้ป่วยใหม่สูงกว่า 200,000 คน ขณะเดียวกัน โปแลนด์มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 794 รายในรอบ 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นตัวเลขการเสียชีวิตในหนึ่งวันที่สูงที่สุดนับแต่โรคโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 4 ในโปแลนด์ ขณะที่ ประเทศที่มีฐานะร่ำรวยส่วนใหญ่เริ่มโครงการวัคซีนบูสเตอร์หรือวัคซีนเข็มที่ 3 เช่น อังกฤษ ร้อยละ 57 ของประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไปรับวัคซีนเข็มที่สามแล้ว
#WHO
#ไวรัสโอไมครอน
#ไวรัสเดลตา