สถานการณ์โควิด-19 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในประเทศไทย ล่าสุด ข้อมูลการตรวจหาสายพันธุ์โควิด-19 โดยกรมวิทยาศาสตร์ฯ ตั้งแต่เปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน -วันที่ 29 ธันวาคม 2564 พบการติดเชื้อโอไมครอน สะสม 934 คน แบ่งเป็น พบในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 577 คนและติดเชื้อในประเทศ 357 คน เฉพาะวันที่ 29 ธันวาคม 2564 เพิ่มขึ้น 194 คนแบ่งเป็น มาจากต่างประเทศ 88 คนติดเชื้อในประเทศ 106 คน พบการติดเชื้อโอไมครอนแล้วในทุกเขตสุขภาพ โดยแนวโน้มพบการติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นกว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจาก การเดินทางเข้าประเทศเริ่มชะลอตัว
สำหรับผู้ที่รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว การติดเชื้อโอไมครอนที่มีความรุนแรงลดลงจากสายพันธุ์เดลตา จะเป็นเหมือนการกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่จริงอยู่แล้ว เนื่องจาก การสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเกิดขึ้นจาก 2 ทาง คือ
1.การฉีดวัคซีน และ
2.ภูมิคุ้มกันที่เกิดหลังจากติดเชื้อ
ดังนั้น หากคนที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเกิดการติดเชื้อ อาการจะไม่รุนแรง และเมื่อหายจะเกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติขึ้น ซึ่งก็จะเหมือนกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ไม่ควรนำเอาภูมิที่เกิดจาก 2 กรณีนี้มาเทียบกันไม่ได้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกับติดเชื้อแล้ว อันไหนจะกระตุ้นภูมิได้สูงกว่า เพราะผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ยังสามารถติดโอไมครอนได้ แต่ที่แน่นอนคือ หากรับวัคซีนแล้ว ความรุนแรงของโรคจะลดลง จึงเป็นที่มาว่า ทำไมกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้ทุกคนมารับวัคซีน โดยเฉพาะเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ส่วนผู้ที่รับครบ 2 เข็มแล้ว ควรกระตุ้นภูมิด้วยวัคซีน ดีกว่ากระตุ้นด้วยการติดเชื้อแน่นอน
#โอไมครอน
#กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
แฟ้มภาพ