WHO เตือน ไวรัสโอไมครอน อันตรายถึงตาย ระบาดเร็วกว่าเดลตาสองเท่า

29 ธันวาคม 2564, 13:37น.


          องค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุในแถลงการณ์อัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำสัปดาห์ว่า อันตรายจากไวรัสโอไมครอนยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก(very high risk) ร้ายแรงถึงขั้นทำให้คนไข้เสียชีวิต ทั้งวัคซีนในปัจจุบันไม่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ



          ขณะเดียวกัน ผลวิจัยเบื้องต้นจากหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลก สรุปตรงกันว่า ไวรัสโอไมครอนมีอัตราการระบาดเร็วกว่าไวรัสเดลตาถึงสองเท่าทุกๆ 2-3 วัน เป็นสาเหตุทำให้ไวรัสโอไมครอนระบาดอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศสและอิตาลี มีผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 5 ล้านคนทั่วโลก หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เสียชีวิต 44,000 ราย หรือ ลดในอัตราร้อยละ 4 ในสัปดาห์ที่แล้ว



          WHO ระบุว่า ไวรัสโอไมครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักแทนสายพันธุ์เดิมคือ เดลตา ในหลายประเทศ เช่น เดนมาร์ก โปรตุเกส อังกฤษและสหรัฐฯ แต่ WHO ตั้งข้อสังเกตว่า แอฟริกาใต้ ประเทศแรกที่แจ้งให้ WHO ทราบเรื่องการระบาดของไวรัสโอไมครอนเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พบการระบาดของไวรัสโอไมครอนน้อยลง ตัวเลขผู้ป่วยใหม่จากไวรัสโอไมครอนลดลงร้อยละ 29



          WHO ระบุอีกว่าข้อมูลเบื้องต้นจาก 3 ประเทศ คือ อังกฤษ แอฟริกาใต้และเดนมาร์ก ซึ่งมีตัวเลขผู้ป่วยต่อประชากรในอัตราสูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ชี้ว่า อัตราการเข้าโรงพยาบาลของผู้ป่วยจากไวรัสโอไมครอนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับอัตราการเข้าโรงพยาบาลของผู้ป่วยจากไวรัสเดลตา แต่ในเรื่องนี้ WHO เตือนว่าจะต้องมีการขอข้อมูลจากการวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบเรื่องอันตรายจากไวรัสโอไมครอน ในแง่ของอัตราการใช้ออกซิเจน การใช้เครื่องช่วยหายใจและอัตราการเสียชีวิตด้วย



          ในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ยาลดการอักเสบ และโปรตีนที่ตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกัน ยังคงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่อาการสาหัส แต่ข้อมูลเบื้องต้น ชี้ว่า สารแอนติบอดีกลุ่มโมโนโคลนอล แอนติบอดี (Monoclonal Antibody)ที่สร้างจากเม็ดเลือดขาว หลังรับวัคซีน ไม่อาจป้องกันเชื้อไวรัสโอไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ



 



#WHO



#ไวรัสโอไมครอน

ข่าวทั้งหมด

X