การกลับมาระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์มีผู้ป่วยรายใหม่กว่า 100,000 คน ทำสถิติผู้ป่วยรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดในฝรั่งเศสเมื่อต้นปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีฌ็อง กัสเต็กซ์ของฝรั่งเศส แถลงเรื่องนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าคล้ายกับภาพยนตร์ที่ฉายอย่างไม่มีกำหนดจบ พร้อมทั้งแถลงมาตรการยกระดับการควบคุมโรคให้เข้มข้นยิ่งขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.65 เช่น
-มาตรการบังคับให้สถานประกอบการ อนุญาตให้คนงานทำงานที่บ้าน (work form home)อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน
-ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในย่านใจกลางเมือง
-ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบนระบบขนส่งสาธารณะที่ขนส่งผู้โดยสารเป็นระยะทางไกลๆ เช่น รถไฟ
-จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 2,000 คน สำหรับกิจกรรมต่างๆเช่น งานอีเวนท์ ที่จัดขึ้นในอาคาร
-กรณีการจัดกิจกรรมนอกอาคาร ให้จำกัดจำนวนผู้ร่วมงานไม่เกิน 5,000 คน
-สถานบันเทิง ไนต์คลับ จะปิดต่อไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
-ลดระยะห่างในการฉีดวัคซีนเข็มที่สองกับเข็มที่สาม ห่างกันเพียง 3 เดือน จากเดิมห่างกัน 4 เดือน
นายกัสเต็กซ์ ไม่ได้พูดถึงขนาดที่ว่า ฝรั่งเศสจะใช้มาตรการห้ามประชาชนออกจากบ้านในยามค่ำคืนของวันที่ 31 ธ.ค.64 นี้ หรือไม่
ด้านนายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวถึง สถานการณ์การระบาดในฝรั่งเศสในปัจจุบันว่าตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นสองเท่าทุกๆสองวัน เตือนว่า การระบาดใหญ่ครั้งใหม่จากไวรัสโอไมครอน อาจจะกระทบต่อระบบสาธารณสุขของฝรั่งเศสมากกว่าครั้งก่อนๆ
#ฝรั่งเศส
#ยกระดับคุมโอไมครอน