กระทรวงสาธารณสุข จัดการประชุมและชื่นชมยินดีแก่บุคลากรสาธารณสุขที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากกว่าเป้าหมาย 100 ล้านโดสแล้ว ขณะที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวนมาก และความกังวลสถานการณ์โควิดโอไมครอน
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเป้าหมาย 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคน เป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นโดยเร็ว ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคระบาด ซึ่งต้องอาศัยกำลังกาย กำลังใจและความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และโรคอื่น ๆ ด้วย การแสดงความชื่นชมยินดีต่อบุคลากรคือการมอบกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานอย่างทุ่มเทมาต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด -19 และเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564
ในส่วนของการรับมือกับสถานการณ์โควิดโอไมครอน ขณะนี้ได้ชะลอการเข้าประเทศในระบบ Test & Go แล้ว เพื่อลดความเสี่ยงของผู้เดินทางที่อยู่ในระยะฟักตัวของโรค พร้อมกับเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น รวมถึงจัดบริการวัคซีนเชิงรุกให้ประชากรทุกกลุ่มทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายพื้นที่เข้าถึงยาก ทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร แรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน เป็นต้น ส่วนด้านการรักษาพยาบาล มีการเตรียมความพร้อม โดยทั้งประเทศมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดมากกว่า 2 แสนเตียง ปัจจุบันใช้อยู่ประมาณ 3 หมื่นเตียง ยังมีเตียงเพียงพอรองรับหากเกิดการระบาด และมีการหารือกับภาคีเครือข่ายทุกสัปดาห์ให้เตรียมความพร้อมตลอดเวลา รวมถึงจัดระบบการดูแลรักษาที่บ้านและชุมชน เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก สำหรับยารักษา ขณะนี้ยังมียาฟาวิพิราเวียร์คงเหลือมากกว่า 16 ล้าน 2 แสนเม็ด และสามารถผลิตภายในประเทศได้แล้วโดยองค์การเภสัชกรรม และมียาเรมเดซิเวียร์ 45,000 ขวด รวมถึงได้สั่งซื้อและจองทั้งยาโมลนูพิราเวียร์ ยาแพกซ์โลวิดแล้ว พร้อมทั้งกำลังปรับปรุงแนวทางรักษาโรคให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงยาและอุปกรณ์อื่น มีสำรองไม่น้อยกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ยังเป็นมาตรการส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ซึ่งจะช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์
...
#กระทรวงสาธารณสุข
#โควิด19
#โควิดโอไมครอน
#วัคซีนโควิด