การปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 (Omicron) หรือ “โอไมครอน” นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบมาตรการเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม - 4 มกราคม 2565 ดังนี้
- ปรับมาตรการ สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test & Go และ Sandbox ยกเว้น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ 21 ธ.ค.64 – 4 ม.ค. 65
- ปรับมาตรการตรวจหาเชื้อเป็น RT- PCR 2 ครั้ง และต้องมีการกำกับติดตามอาการ / การอยู่ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รวมทั้งการติดตามการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ให้ได้ 100%
- ปรับมาตรการสำหรับคนในประเทศไทย โดยให้ประชาสัมพันธ์คนไทยที่จะเดินทางต่างประเทศ ให้พิจารณา ชะลอ ยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะประเทศทาง ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง พร้อมให้มีการตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และประชาสัมพันธ์ให้มีการใช้ ATK ด้วยตัวเองเป็นระยะๆ หรือเมื่อมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมทั้งจุดฉีดวัคซีนในสถานีขนส่ง ท่าเรือ หรือท่าอากาศยาน
สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียน ประมาณ 200,000 คน ในระบบ Test & Go ยังสามารถทยอยเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทางของแต่ละท่าน แต่จะมีมาตรการติดตามที่เข้มขึ้น เช่น การตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 เป็นครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย นับเป็นมาตรการชั่วคราวมีผลวันนี้ คือ 21 ธันวาคม -4 มกราคม 2565 โดยศบค. จะมีการติดตามสถานการณ์ระหว่างนี้อย่างใกล้ชิด เพี่อจะนำมาปรับมาตรการ หลัง 4 ม.ค. 65 อีกครั้ง
ส่วนการปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจากระบบ Test & Goในเดือนธันวาคม 227 คน สูงขึ้นกว่า 2 เท่า จากเดิมที่พบติดเชื้อเมื่อเดือนพฤศจิกายน พบ 83 คน จึงต้องมีการปรับมาตรการป้องกันให้เข้มยิ่งขึ้น
#โควิด19
#มาตรการเข้มเข้าราชอาณาจักร