แม้ว่าจะมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันโควิด-19 บริษัทรอยัล แคริบเบียน เปิดเผยว่า ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ เรือสำราญใหญ่ที่สุดในโลก บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 6,091 คน ล่องทะเลแคริบเบียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์
พบคนอย่างน้อย 48 คนบนเรือ มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก และเข้าสู่กระบวนการกักตัวแล้ว ทุกคนที่มีผลตรวจเป็นบวกไม่แสดงอาการหรือมีอาการแค่เล็กน้อย เรือออกเดินทางจากไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.64 และเมื่อพบว่ามีการตรวจเจอเชื้อ บริษัทให้ผู้โดยสาร 6 คนที่มีผลตรวจเป็นบวกระหว่างล่องเรือลงจากเรือ ส่วนนักเดินทางคนอื่นๆที่มีผลตรวจเป็นบวกลงจากเรือเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64
คนที่อยู่บนเรือฉีดวัคซีนครบแล้วคิดเป็นสัดส่วน 95% และในบรรดาคนที่มีผลตรวจเป็นบวกมีอยู่ถึง 98% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว อย่างไรก็ตาม รอยัล แคริบเบียน ระบุว่าจำนวนเคสผู้ติดเชื้อคิดเป็นเพียงแค่ 0.78% ของผูู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด
กฎระเบียบของรอยัล แคริบเบียน บังคับผู้โดยสารทุกคนอายุ 12 ปีขึ้นไปที่อยู่บนเรือ ต้องฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วและมีผลตรวจเชื้อเป็นลบก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้แล้วยังออกคำแนะนำอย่างหนักแน่นถึงผู้โดยสารให้เข้ารับเข็มกระตุ้นก่อนการล่องเรือ แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นบังคับ ส่วนลูกเรือก็ถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนครบเข็มและทำการตรวจเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เด็กๆที่ยังไม่ฉีดวัคซีนบนเรือสำราญ ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ จำเป็นต้องแสดงผลตรวจพบ RT-PCR เป็นลบ และต้องมีผลตรวจเป็นลบที่ท่าเทียบเรือก่อนออกเดินทาง เพิ่มการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ขณะที่เรือสำราญต่างๆที่ประจำการในสหรัฐฯ เวลานี้จำเป็นต้องบังคับสวมหน้ากากในฐานะที่เป็นพื้นที่สาธารณะในร่ม นโยบายที่เพิ่งอัพเดทเมื่อไม่นานที่ผ่านมา สำหรับการขยายข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยครอบคลุมพวกผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนครบเข็มด้วย
#เรือสำราญซิมโฟนีออฟเดอะซีส์
#โควิด19
CR:CNN