เกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับประชาชนจำนวนมากในกรุงเอเธนส์ ของกรีซ ที่ออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนเพื่อประท้วงรัฐบาล เนื่องจากประชาชนไม่พอใจรัฐบาลที่นำโดยนายกฯอเล็กซิส ซีปราส ที่ไม่ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง กลุ่มผู้ประท้วงหลายคนจุดไฟเผารถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน และทุบทำลายกระจกร้านค้า พร้อมทั้งขว้างปาก้อนหิน และระเบิดเพลิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ด้วย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมหลายสิบคนการประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาลครั้งแรก หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่พรรคซีริซาที่ชูนโยบายยุติมาตรการรัดเข็มขัด คว้าชัยชนะได้อย่างถล่มทลาย อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นสัปดาห์ นายกรัฐมนตรีซีปราส กลับยื่นแผนปฏิรูปประเทศเพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้พิจารณา แลกกับการต่ออายุโครงการเงินช่วยเหลือออกไปอีก 4 เดือน เนื่องจากข้อตกลงฉบับปัจจุบันมูลค่า 2 แสน 40,000 ล้านยูโร ( ราว 8.97 ล้านล้านบาท ) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2553 กำลังจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.ท่าทีของนายกฯ กรีซ ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ภายในพรรคซีริซาเอง ว่าเป็นการยอมอ่อนข้อของนายซีปราสให้แก่เยอรมนี ประเทศผู้อุปถัมภ์ทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของกรีซ ซึ่งมีกำหนดลงมติในสภาวันศุกร์นี้ ว่าจะมอบความช่วยเหลือทางการเงินให้แก่กรีซต่อหรือไม่ ขณะที่นายโวล์ฟกัง ชอยเบลอ รมว.กระทรวงการคลังเยอรมนี กล่าวว่าการต่ออายุโครงการเงินกู้ของกรีซคือทางออกดีที่สุดในเวลานี้ แต่ส่วนตัวยังคงกังขากับแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปประเทศของรัฐบาลเอเธนส์ แม้ได้รับการรับรองจากยูโรกรุ๊ปแล้วก็ตาม