*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

27 กุมภาพันธ์ 2558, 05:41น.


+++มีการเปิดเผยชื่อมือสังหารของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) คือโมฮัมหมัด เอ็มวาซี ชายชาวอังกฤษที่เกิดในคูเวตและเติบโตในฝั่งตะวันตกของลอนดอน  คาดว่าอายุประมาณ 27 ปี สำนักข่าวบีบีซีและหนังสือพิมพ์การ์เดียนที่ลงข่าวนี้ด้วย ไม่ได้เปิดเผยว่าได้ข่าวจากแหล่งข่าวใด แต่ตำรวจนครบาลลอนดอนไม่ยืนยันข้อมูลตามรายงานนี้  มือสังหารฉายา "ญิฮาด จอห์น" รายนี้ปรากฏตัวในสภาพแต่งชุดดำคลุมใบหน้ามิดชิด พูดด้วยภาษาอังกฤษ สำเนียงคนอังกฤษในวิดีโอคลิปข่มขู่และฆ่าตัดคอตัวประ กันหลายศพด้วยกัน นายเอ็มวาซี เติบโตในครอบครัวคนชั้นกลาง เรียนด้านเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ ก่อนจะเดินทางไปซีเรียราวปี 2555 มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลชาบับในโซมาเลีย 



+++ส่วนที่สหรัฐฯ ตำรวจสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จับชายชาวต่างชาติ 3 คนที่พักในนิวยอร์ก โดยสงสัยว่าพวกเขาเตรียมเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย ชาย 2 คนเป็นชาว อุซเบกิสถาน ชื่อ นายอับดูราซุล จูราโบเยฟ วัย 24 และนายอับรอร์ ฮาบีบอฟ วัย 30 อีกคนเป็นชาวคาซัคสถาน ชื่อนายอัครอร์ ไซดัคเมตอฟ วัย 19 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่นิวยอร์กเมื่อวันอังคาร ขณะเตรียมขึ้นเครื่องไปนครอิสตันบูลของตุรกี โดยมีนายฮาบี บอฟช่วยด้านการเงิน ส่วนนายจูราโบเยฟ ซื้อตั๋วแล้วเตรียมเดินทางเดือนหน้า เอฟบีไอส่งตัวพวกเขาขึ้นศาล ตั้งข้อกล่าวหาว่าสมคบคิดกันสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายต่างแดนและขู่โจมตีในสหรัฐฯ  ทั้งสามถูกจับตาหลังจากโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ภาษาอุซเบกช่วงไม่กี่เดือนมานี้ มีทั้งขู่จะสังหารประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯและขู่ฆ่าตำรวจและเอฟบีไอที่ขัดขวางแผนเดินทางของพวกเขา



 



+++สถานการณ์ภัยก่อการร้ายในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงอัมมานของจอร์แดน ออกแถลงการณ์เตือนระวังการโจมตีต่อห้างสรรพสินค้าในกรุงอัมมาน หลังได้รับข่าวกรองมาและจากการพิจารณาแล้วพบว่าน่าเชื่อถือ พร้อมขอให้ประชาชนชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงห้างดังกล่าวในช่วงเวลา 2-3 วันนี้ อย่างไรก็ตาม สถานทูตสหรัฐฯยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าการโจมตีจะเป็นไปในรูปแบบใดและเวลาใด ขณะที่โฆษกรัฐบาลจอร์แดน เปิดเผยว่าได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในประเทศ หลังจากสถานการณ์ภาพรวมในภูมิภาครุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ทั้งนี้ จอร์แดนได้ยกระดับการโจมตีฐานที่มั่นกองกำลังรัฐอิสลามไอเอสในซีเรีย หลังกลุ่มไอเอสสังหารนักบินจอร์แดนด้วยการเผาทั้งเป็น



+++นอกจากนี้ กลุ่มไอเอส ยังลักพาตัวชาวมุสลิมสุหนี่กว่า 100 คน ในพื้นที่เมืองติกริต ภาคกลางของอิรัก ด้วย



+++นางจูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย แสดงความกังวลกรณีที่หนุ่มสาวจำนวนมากหลั่งไหลไปร่วมรบกับนักรบญิฮัดในซีเรียและอิรัก โดยเฉพาะหลังจากการเผยแพร่ข่าวเด็กสาวอังกฤษ 3 คนชวนกันเดินทางไปซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ออสเตรเลียคาดว่ามีพลเมืองอย่างน้อย 110 คนไปร่วมรบในตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 30-40 คนที่อาจไปร่วมรบหรือให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศ นางบิชอป เรียกร้องให้ครอบครัวเอาใจใส่ดูแลบุตรหลานก่อนสายเกินไป  เด็กสาวจำนวนมากชื่นชมนักรบต่างชาติ ติดสอยห้อยตามแฟนไป หรือต้องการมีคู่ครองและได้รับการบอกเล่าจากสื่อออนไลน์ว่า จะไม่ผิดหวังแน่นอนหากเดินทางไปซีเรียและอิรัก แต่นางบิชอป เตือนว่า ในความเป็นจริง ผู้หญิงเหล่านั้นจะไม่ได้พบกับการผจญภัยสุดแสนโรแมนติกอย่างที่ฝัน แต่เป็นขบวนการก่อการร้ายที่ปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างโหดเหี้ยมทารุณ



+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองไมดูกูรี ประเทศไนจีเรีย ว่า เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตาย เด็กหนุ่มวัยรุ่น 2 คน บุกโจมตีสถานีรถบัสโดยสารทาชาน กานดู ในเมืองบิอู รัฐโบร์โน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ศพ รวมถึงผู้หญิง 3 คน บาดเจ็บ 17 คน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มโบโก ฮาราม ที่โหมก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2 - 3 เดือน เพื่อขัดขวางการเลือกตั้งแห่งชาติ ที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 28 มี.ค. ตามที่หัวหน้ากลุ่มได้ประกาศไว้



+++กองทัพรัฐบาลยูเครน เริ่มถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้าในภาคตะวันออกของประเทศแล้ว ตามข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ขณะเดียวกัน ฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนในแคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์ กล่าวอ้างว่าพวกเขาได้ดำเนินการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ปะทะตลอดช่วงหลายวัน และอ้างด้วยว่าการถอนอาวุธเกิดขึ้นภายใต้การสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่จากองค์การสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) นายอิลกา กาเนร์วา ประธานสภาของโอเอสซีอี ระบุในเวลาต่อมาว่า กลุ่มกบฏยังคงปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเข้าตรวจสอบพื้นที่ต่างๆในภายภาคตะวันออกอย่างไม่มีขีดจำกัด



+++ สถานการณ์น้ำท่วมหนักในโบลิเวีย นายอัลวาโร การ์เซีย ลีเนรา รองประธานาธิบดีโบลิเวีย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเกือบ4ตันไปยังหลายชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมในเมืองปันโด หลังจากแม่น้ำอัคเร เอ่อล้นฝั่งใกล้ชุมชนแถบป่าอเมซอน โดยสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ เช่นเสื้อผ้า,ที่นอนและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขอนามัยถูกส่งไปยังผู้เดือดร้อน บ้านเรือนหลายหลังในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมที่ระดับน้ำสูงถึงเพดานบ้าน เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในภูมิภาค



+++ทีมกู้ภัยของอัฟกานิสถาน เร่งค้นหาชาวบ้านอีกหลายคนที่อาจจะติดค้างอยู่ใต้หิมะหลังหิมะถล่มลงมาหลายระลอกในจังหวัดปันจ์ชีร์ทางตอนเหนือของกรุงคาบูล เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีคนเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า200ศพ บาดเจ็บอีก 129 คน หลังบ้านเรือนหลายหลังถูกหิมะถล่มทับ ขณะเดียวกัน พิธีศพส่วนใหญ่ในจังหวัดปันจ์ชีร์ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากมีหิมะถล่มอย่างต่อเนื่อง สำหรับสภาพอากาศแปรปรวนครั้งนี้มีขึ้นหลังมีอากาศแห้งและหนาวเย็นระดับปานกลาง แม้ว่าหิมะถล่มจะเป็นเรื่องปกติในอัฟกานิสถาน แต่เหตุการณ์ในปีนี้ ทำให้มีคนเสียชีวิตมากที่สุด



+++สภาคองเกรสของอาร์เจนตินา ลงมติรับรองกฏหมายฉบับหนึ่งที่จะส่งผลให้มีการยุบสำนักงานข่าวกรอง และจะมีหน่วยงานใหม่ของรัฐบาลกลางมาทำหน้าที่แทน  สำหรับหน่วยงานใหม่นี้คาดว่าจะมีการจัดตั้งขึ้นภายใน 90 วันหลังการลงนามโดยประธานาธิบดีคริสตินา เฟอร์นานเดซ เดอ เคียร์ชเนอร์ นอกจากนั้นระบบการทำงานของหน่วยงานกรองไม่ทันต่อสถานการณ์และมีการใช้งบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ จึงควรจัดตั้งองค์กรใหม่ที่มีการทำงานที่โปร่งใสและเกิดประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติให้มากที่สุด



+++พยาบาลชายชาวเยอรมนี ถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ฐานฆาตกรรมคนไข้ของโรงพยาบาล 2 ศพ แต่เจ้าหน้าที่เกรงว่ายอดเหยื่อที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก หลังจากเขารับสารภาพว่าลงมือฆ่าคนไปแล้วกว่า 30 ศพ เพียงเพื่อแสวงหาความตื่นเต้น ชายวัย 38 ปี ถูกระบุเพียงแค่ชื่อว่า Niels H ยอมรับสารภาพว่าได้ฉีดยากระตุ้นหัวใจแก่ผู้ป่วยในปริมาณที่ทำให้เกิดอาการช็อกเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเหลือคนไข้เหล่านั้น และเพื่อที่เขาจะได้รับการยกย่องในฐานะผู้ช่วยชีวิตต่อหน้าเพื่อนๆพยาบาลด้วยกัน บทลงโทษของผู้ต้องหาคือจำคุกตลอดชีวิต  จำเลยสารภาพว่าเขาฉีดยากระตุ้นหัวใจให้ผู้ป่วยอาการวิกฤต เพื่อเขาจะได้โชว์ความสามารถในการกู้ชีพคนไข้เหล่านั้นที่โรงพยาบาลเดลเมนโฮร์สต์ ใกล้เมืองเบรเมน ทางภาคเหนือของประเทศ 

ข่าวทั้งหมด

X