การเบิกจ่ายงบประมาณวงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อก่อสร้างถนน ของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วงเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพใหญ่ ที่รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนได้ โดยผ่านการค้า การลงทุน การสร้างงาน สร้างอาชีพ ที่จะช่วยทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจตะวันออกและตะวันตก เพื่อสร้างความ พร้อมของระบบสาธารณูปโภคของประเทศ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ,กระทรวงพาณิชย์ ,และกระทรวงมหาดไทย ไปดูแลในเรื่องรายได้ของเกษตรกร ,ต้นทุนการผลิต ,การปรับพฤติกรรมการผลิต เพื่อให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง รวมไปถึงการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเปลี่ยนไปใช้สิทธิพิเศษ ทางด้านภาษีอาการ หรือ จีเอสพี ของประเทศเพื่อนบ้านที่ยังได้สิทธิดังกล่าวอยู่ ส่วนกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่หลายฝ่ายมองว่าล่าช้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามเบิกจ่ายงบอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะผ่านการอนุมัติจากระดับบนอย่างรวดเร็ว แต่ในระดับของผู้ปฏิบัติการ พบว่าการเบิกจ่ายมีขั้นตอนต่างๆถึง 6 ขั้นตอน ก็เพื่อให้เกิดความโปรงใสในการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งก็ได้กำชับให้มีการลดขั้นตอน เพื่อให้การเบิกจ่ายเร็วขึ้น แต่ก็ต้องควบคู่ไปกับการตรวจสอบให้มีความโปรงใส โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า อย่ามาถามว่าทำไมการเบิกจ่ายงบประมาณ ถึงมีความล่าช้า เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ และยืนยันว่าการเบิกจ่ายของรัฐบาลไม่ผิดปกติ เพราะไตรมาส 1ใน2558 รัฐบาลได้เบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วร้อยละ 20 และไตรมาส 2เบิกจ่ายไปแล้วร้อยละ 30 ซึ่งเชื่อได้ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวจะเห็นผลได้ชัดเจนในไตรมาสที่ 3 ขอยืนยันว่าขณะนี้ ข้าราชการไม่ได้เกียร์ว่าง ซึ่งหากข้าราชการทำทุกอย่างตามระเบียบ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องของการทุจริต ส่วนที่ภาคเอกชน เสนอขอให้มีการร่วมลงทุนกับภาครัฐในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นกรุงเทพ- พัทยานายกรัฐมนตรี ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปเจรจากับภาคเอกชน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน
วิรวินท์