นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซียพบผู้ป่วยโอไมครอนรายที่สอง เป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบที่เดินทางมาจากไนจีเรีย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โดยเครื่องบินแวะพักเครื่องที่กาตาร์ แล้วเดินทางต่อมายังมาเลเซีย
จากการตรวจโรคแบบ RT-PCR ก่อนเดินทางมาเลเซีย ปรากฏว่ามีผลเป็นลบ
แต่จากผลตรวจโรคซ้ำแบบ RT-PCR ในวันเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปรากฏว่ามีผลตรวจโรคเป็นบวก แต่ไม่มีอาการป่วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเลเซียจึงอนุญาตให้เธอกลับไปกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ส่วนผลตรวจโรคสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาด้วยกันจากไนจีเรียคือ คุณแม่และพี่สาว ซึ่งตรวจโรคระหว่างกักตัวอยู่ในบ้านในวันที่ 5 และวันที่ 11 หลังมาถึงมาเลเซีย ปรากฏผลตรวจเป็นลบ
ขณะเดียวกัน คนขับรถแท็กซี่ซึ่งรับผู้โดยสารกลุ่มนี้ที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีอาการป่วย แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของมาเลเซีย มีคำสั่งให้ทั้ง 3 คน กักตัวอยู่ในบ้านเพื่อสังเกตอาการป่วยต่อไป
หลังพบผู้ป่วยรายที่สอง มาเลเซียได้เพิ่มประเทศไนจีเรียในรายชื่อกลุ่มประเทศพื้นที่เสี่ยงสูง กำหนดให้บรรดานักท่องเที่ยวที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงจะต้องติดอุปกรณ์ติดตามตัวแบบดิจิทัลตลอดระยะเวลากักตัวสองสัปดาห์ ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม มาเลเซียพบผู้ป่วยโอไมครอนคนแรก เป็นนักศึกษาวัย 19 ปีจากแอฟริกาใต้ที่เรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในอีโปะฮ์ เมืองเอกของรัฐเปรัก เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ โดยเครื่องบินแวะพักเครื่องที่สิงคโปร์ก่อนมุ่งหน้ามายังสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะนี้ถูกกักตัวอยู่ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในเมืองในอีโปะฮ์
มาเลเซียมีผู้ป่วยสะสม 2 ล้าน 7 แสนคน เสียชีวิต 30,989 ราย
#มาเลเซีย
#ไวรัสโอไมครอน