ศาลอาญา เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จากวันนี้ไปเป็นเวลา 09.00 น.วันที่ 10 ก.พ.65 ในคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมายเลขดำ อ.310/2556 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง จำเลยที่ 1-4 ประกอบด้วย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตและเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความโจทก์ กล่าวว่า คดีนี้ฟ้อง นายธาริต กับพวก รวม 4 คน กรณีที่แจ้งข้อหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับว่าการที่จำเลยทั้งสี่ เรียกนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ มาแจ้งข้อกล่าวหา มีลักษณะเป็นการกลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษ ประกอบกับดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวนเรื่องนี้ เพราะว่า ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ร้องทุกข์กล่าวโทษมาที่ดีเอสไอ แต่ดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนและการไต่สวนหาความจริงอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) เพราะว่าทั้งสองเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ มีเพียงจำเลยที่ 2,3 และ 4 มาฟังคำพิพากษา แต่ นายธาริต จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล เนื่องจาก ศาลส่งหมายไปที่ดีเอสไอ ซึ่งเป็นนายประกันของจำเลย 1 แล้วแถลงต่อศาลว่า นายธาริต ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ดังนั้น ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเมื่อนายประกันขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยที่ 1 จึงให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ.65 เวลา 09.00น.
#คดีปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
แฟ้มภาพ