กรมราชทัณฑ์ เผยผู้ต้องขังในเรือนจำพิษณุโลก ติดโควิด 1,501 คน มีอาการน้อย ให้ยาฟาวิพิราเวียร์

         นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกว่า ทำให้มีเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 128 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 14 แห่ง ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 6 แห่ง (ระบาดใหม่ 4 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เรือนจำอำเภอนาทวี และเรือนจำอำเภอฝาง และที่ระบาดซ้ำในแดนบางส่วน 2 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และเรือนจำกลางเชียงใหม่)

          ส่วนสถานการณ์ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกที่เป็นเรือนจำระบาดใหม่ กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานว่า จากการประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้าตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit  (ATK) พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 1,501 คน (ข้อมูล วันที่ 12 ธ.ค.64) ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมวางแผนในการตรวจคัดกรอง คัดแยก และการดูแลรักษาอื่นๆ ตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากร ทั้งจากส่วนกลาง กรมราชทัณฑ์ เรือนจำในเขตพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเร็วๆ นี้

          ด้านการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม หรือครบโดสแล้ว จำนวน 260,790 คน หรือ 92.4% ของจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั้งหมด 282,118 คน

          นายอายุตม์ กล่าวถึง การประชุม ศบค.ยธ.โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในเช้าวันนี้ พบว่า สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจำนวนเรือนจำระบาดใหม่ที่ชะลอตัวลงในระยะนี้ ขณะที่การควบคุมการระบาดภายในเรือนจำ สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระบบและมีเรือนจำเตรียมพ้นจากการระบาดได้เพิ่มขึ้น คาดว่า สถานการณ์ในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้จะดีขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำหรือระบาดในแดนเพิ่มอีก

#กรมราชทัณฑ์

#ผู้ต้องขังติดโควิด

แฟ้มภาพ